“ออมสิน” ลดดอกเบี้ยสูงสุด 3% อุ้มธุรกิจรับแรงกระแทก “กำแพงภาษีสหรัฐ”

วันนี้ (21 พ.ค.68) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายให้สถาบันการเงินของรัฐช่วยเหลือภาคธุรกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ผ่านการลดเป้าหมายกำไรทางธุรกิจ เพื่อนำเม็ดเงินงบประมาณมาดำเนินโครงการและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการ

ธนาคารออมสินจึงได้ประกาศลดดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มสินเชื่อธุรกิจที่เป็นลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร ในอัตรา 2 – 3% ต่อปี สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก, ธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และผู้ผลิตสินค้าที่ต้องแข่งขันสูงกับสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ

เนื่องจากนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐส่งผลให้ต้นทุนสินค้าไทยเพิ่มขึ้น การส่งออกชะลอตัว และขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง จนอาจนำไปสู่ปัญหาการขาดสภาพคล่องและกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม การลดดอกเบี้ยจะช่วยลดภาระต้นทุนทางการเงิน เสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจสามารถประคองตัวและดำเนินกิจการต่อไปได้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย

ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการลดดอกเบี้ยนี้ครอบคลุมลูกค้าปัจจุบันในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจของธนาคารออมสินทุกประเภทที่มีสถานะบัญชีปกติ โดยเฉพาะธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว เช่น ธุรกิจส่งออก, ธุรกิจ Supply Chain และผู้ผลิตสินค้าที่แข่งขันกับสินค้านำเข้าราคาถูก โดยลดดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 3% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาเดิม เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่จัดทำนิติกรรมสัญญา ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด

ลูกค้าที่เข้าหลักเกณฑ์สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สาขาธนาคารออมสินที่มีบัญชีเงินกู้ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GSB Contact Center โทร. 1115