
คลัง–ธปท.–TBA เปิดตัว “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” เฟสแรกเคลียร์หนี้ 1.9 ล้านบัญชี ฟื้นเครดิตบูโร
ธปท.–คลัง–สมาคมธนาคารไทย ร่วมลงนามหลักการกับบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท และบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เปิดโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” มาตรการเฉพาะกิจช่วยลูกหนี้รายย่อยหนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาท เตรียมเสนอ ครม. รับทราบสัปดาห์หน้า ครอบคลุมกว่า 1.9 ล้านบัญชี ฟื้นเครดิตบูโร ลดภาระหนี้ครัวเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ย.68) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และแถลงเปิดตัวโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้”
ทั้งนี้ นายเอกนิติ ระบุว่า กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาและรับทราบโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ หลังจากมีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสถาบันการเงินในวันนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มดำเนินการจริง
โดยผู้ลงนามหลักการเบื้องต้นประกอบด้วย นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนสมาคมธนาคารไทย (TBA) ร่วมลงนาม พร้อมด้วยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB)
นายเอกนิติ กล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการดึงหนี้ออกจากสถาบันการเงินไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังต้องการ “ชุบชีวิต” ลูกหนี้เหล่านั้นด้วย ซึ่งการช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยั่งยืนและกระจายตัวในวงกว้าง โดยจะรวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น การตัดหนี้ตามความสามารถ การลดหนี้ หรือการยืดหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้มีลมหายใจคล่องขึ้น
รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ กล่าวต่อว่า โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลูกหนี้รายบุคคล แต่ยังช่วยลดภาระของระบบสถาบันการเงิน และสร้างแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้อย่างยั่งยืน เมื่อประชาชนหลุดพ้นจากภาระหนี้ จะสามารถกลับมาบริโภค ลงทุน เข้าถึงสินเชื่อ และดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคงมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย สิ่งสำคัญคือ “เราไม่ได้เพียงช่วยให้คนคนหนึ่งไปต่อได้ แต่คือการช่วยให้ชีวิตของทั้งครอบครัวได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”
นายเอกนิติ กล่าวย้ำว่า โครงการแก้ไขหนี้เสียนี้สามารถขับเคลื่อนได้ภายในเวลาเพียง 1 เดือน ด้วยความร่วมมือจาก ธปท. สมาคมธนาคารไทย SAM และ NCB สะท้อนความตั้งใจของทุกภาคส่วนในการช่วยให้ลูกหนี้กลับมามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น พร้อมขอบคุณ NCB ที่เปิดโอกาสให้ลูกหนี้สามารถกลับเข้าสู่ระบบสินเชื่อได้อีกครั้ง หากมีวินัยทางการเงินที่ดี
โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและสถาบันการเงิน ภายใต้นโยบาย “Quick Big Win” ของรัฐบาล ที่มุ่งช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยให้กลับมามีวินัยทางการเงิน และลดภาระหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน โดยเป็นมาตรการเฉพาะกิจดำเนินการเพียงครั้งเดียว มุ่งเน้นช่วยลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสีย (NPLs) ไม่มีหลักประกัน และมีภาระหนี้รวมทุกสถาบันไม่เกิน 100,000 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
นายวิทัย ระบุว่า ในระยะแรกโครงการจะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินราว 1.6 ล้านบัญชี หรือ 1.2 ล้านราย คิดเป็นภาระหนี้รวมประมาณ 43,600 ล้านบาท โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) จะเข้าซื้อหนี้จากสถาบันการเงินเพื่อนำมาปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนให้ลูกหนี้สามารถกลับมาชำระได้

ลูกหนี้ที่เข้าร่วมจะได้รับสิทธิผ่อนปรนพิเศษ เช่น ยกเว้นดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมค้างชำระ ลดยอดเงินต้นบางส่วน เพื่อให้สามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้นและกลับมามีประวัติการชำระหนี้ที่ดีในเครดิตบูโรอีกครั้ง โดยมี 2 ทางเลือก ได้แก่ 1. ชำระปิดจบหนี้ในทันที และ 2. ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย หากปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วน
ธปท. ได้ปรับบทบาท SAM เป็น “Social AMC” หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อสังคม ที่มุ่งช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยโดยไม่แสวงหากำไร พร้อมพิจารณาขยายการรับซื้อหนี้จากผู้ให้บริการทางการเงินประเภทอื่นในระยะต่อไป
นายวิทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ค่าธรรมเนียมที่ค้างอยู่ ดอกเบี้ยปกติ และดอกเบี้ยผิดนัดค้างอยู่จะยกให้ทั้งหมด ขณะที่เงินต้นจะถูกลดลงในสัดส่วนที่เหมาะสม ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระได้สูงสุด 3 ปีโดยไม่คิดดอกเบี้ย เพื่อจูงใจให้เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้หรือชำระปิดจบ
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังเตรียมช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ผ่านบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด (Ari-AMC) อีกกว่า 3.3 แสนบัญชี ภายใต้หลักการเดียวกัน ส่งผลให้โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ครอบคลุมลูกหนี้รายย่อยรวมกว่า 1.9 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้รวมประมาณ 53,200 ล้านบาท
โครงการนี้เป็นความร่วมมือสำคัญระหว่างกระทรวงการคลัง ธปท. สมาคมธนาคารไทย SAM และ NCB เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ที่มีวินัยทางการเงินกลับเข้าสู่ระบบสินเชื่ออีกครั้ง สร้างเสถียรภาพให้ระบบสถาบันการเงิน และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :
ครม.เศรษฐกิจ เคาะโอนหนี้ 4.76 ล้านบัญชี มูลค่า 1.22 แสนล้าน เข้าบริหารใน AMC

