SETบ่ายฟื้นตัวจำกัดแนวต้าน 1,417 จุดกูรูแนะเก็งกำไร 12 หุ้นเด็ดใน 4 กลุ่มหลัก

บ่ายนี้ตลาดฯคงยังฟื้นตัวจำกัด พร้อมให้แนวรับ 1,402-1,397 แนวต้าน 1,417-1,421 จุด แนะเก็งกำไร 12 หุ้นเด็ดใน 4 กลุ่มหลัก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (24 มี.ค.) การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากคาดเศรษฐกิจฟื้น จากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มมีความชัดเจนขึ้น อย่างโครงการรถไฟฟ้าจะเข้าครม.ในสัปดาห์หน้า และคาดจะประมูลได้ปลายไตรมาส 2/59 ทำให้หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องขยับขึ้นมา ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างด้วย บ่ายนี้ตลาดฯคงยังฟื้นตัวจำกัด พร้อมให้แนวรับ 1,402-1,397 แนวต้าน 1,417-1,421 จุด

 

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบกันราว 0.4-1% เนื่องจากมีปัจจัยลบจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นในระยะสั้น ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการฟื้นตัวดีขึ้น ดังนั้น จึงมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 1-2 ครั้งถัดไป ทำให้ไปกดดันตลาดในเอเชียด้วย แต่โนมูระฯคาดว่าเฟดไม่น่าจะเร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเชื่อว่าสภาพคล่องยังคงจะไหลเข้ามาอยู่

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยได้รับผลบวกจากความคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจ จากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มมึความชัดเจนขึ้น อย่างเรื่องโครงการรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรีฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะประมูลได้ในปลายไตรมาส 2/59 ทำให้หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องขยับตัวขึ้นมา อีกทั้งนโยบายดอกเบี้ยก็มีเสถียรภาพ ทำให้หุ้นในกลุ่มแบงก์ช่วยพยุงตลาดฯไว้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะยังฟื้นตัวได้จำกัด พร้อมให้แนวรับ 1,402-1,397 จุด ส่วนแนวต้าน 1,417-1,421 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 24 มี.ค.) ว่า SET เคลื่อนไหว Sideways สร้างฐานช่วงเช้าวันนี้ด้วยแรงกดดันของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับลดลงเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตามการปรับสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ต้นปีเมื่อวานนี้ เป็นสัญญาณ “บวก” ต่อเนื่อง ทางเทคนิค ประเมินเป้าหมายการปรับสูงขึ้นต่อไปที่ 1,430-1,460 จุด

แม้การปรับสูงขึ้นของ SET ไปที่ 1,430-1,460 จุด ตามการปรับสูงขึ้นของกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามคาดว่ากลุ่มหุ้นขนาด กลาง-เล็ก ที่มีพื้นฐานดี มี Story หนุน และราคาหุ้นยัง Laggard ตลาดมากตั้งแต่ต้นปี จะเป็นหุ้นที่มีจังหวะ “เก็งกำไร” ช่วงนี้ ได้แก่

1) กลุ่มรับเหมาฯ คาด ครม.พิจารณาโครงการรถไฟรางคู่ และรถไฟฟ้า 3 เส้นทางในการประชุมสัปดาห์หน้า เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มรับเหมาฯ โดยรวม แนะนำ “ซื้อ” CK UNIQ SEAFCO (กำลังทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือนที่ 8.55 บาท ทะลุได้มีจังหวะขึ้นต่อไปที่ 8.85 บาท) และ “เก็งกำไร” STEC ITD

2) กลุ่ม Micro Finance คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 เติบโตแกร่งทั้ง SAWAD MTLS และ GL ขณะที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำเป็นปัจจัยบวกต่อ Net Interest Margin แนะนำ “ซื้อ” SAWAD (Laggard ตลาดมากที่สุดตั้งแต่ต้นปี ประเมินเป้าหมายระยะสั้นที่ 44.5-45 บาท) MTLS และ GL

3) กลุ่มโรงแรม ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 มีแนวโน้มออกมาดี เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจโรงแรม ขณะที่อาจมีปัจจัยบวกระยะสั้นจากมาตรการลดหย่อนภาษี 15,000 บาท สำหรับการใช้จ่าย กิน-เที่ยว ช่วงสงกรานต์ เพิ่มเติมของรัฐบาล เป็นปัจจัยบวกต่อทั้ง CENTEL (ได้ประโยชน์มากกว่า เนื่องจาก 80% ของรายได้มาจากโรงแรมและอาหารภายในประเทศ) และ MINT

4) กลุ่มสื่อสื่อสาร แม้ ADVANC (แนวต้านเส้น 200 วัน ที่ 198 บาท) INTUCH ปรับสูงขึ้นมากตั้งแต่ต้นปี แต่ยังมองเป็นเป้าหมายในการทำ Short Covering ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 31 มี.ค.-4 เม.ย.นี้ แนะนำ “ซื้อ” ADVANC และ INTUCH ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.4-3.8%

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

TPBI   มูลค่าการซื้อขาย 2,111.32 ล้านบาท ปิดที่ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.20 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,388.80 ล้านบาท ปิดที่ 187.00 บาท ลดลง   1.50 บาท

KTB    มูลค่าการซื้อขาย 1,143.57 ล้านบาท ปิดที่ 18.70 บาท ลดลง   0.30 บาท          

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,093.27 ล้านบาท ปิดที่ 67.50 บาท ลดลง   1.50 บาท

AOT   มูลค่าการซื้อขาย 1,014.67 ล้านบาท ปิดที่ 404.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

Back to top button