ADVANC ชู 5 กลยุทธ์ดัน “AIS Business” สู่องค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ

ADVANC ตั้งเป้า “AIS Business” ก้าวสู่ “Cognitive Telco ต่อยอดเป้าหมายการทำงานในฐานะผู้นำตลาด พร้อม 5 กลยุทธ์ เปลี่ยนแปลงองค์กรธุรกิจให้มีศักยภาพพร้อมรับมือทุกโอกาส


นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า นอกเหนือจากการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับการใช้งานที่เหนือกว่าแล้ว วันนี้ AIS ยังคงเดินหน้านำศักยภาพโครงข่ายเข้าเชื่อมต่อการทำงานกับภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้สามารถทรานสฟอร์มองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการทำงาน การบริหารต้นทุน และสร้างการเติบโตด้วยเครื่องมือด้านดิจิทัลที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้ท่ามกลางสถานการณ์และความท้าทายรอบด้าน ทำให้ในปีที่ผ่านมาภาพรวมของรายได้กลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรเติบโตขึ้นกว่า 16%

สำหรับปีนี้การทำงานของ AIS Business ก็ยังคงเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมเพราะมีเป้าหมายใหม่ที่เราต้องการขยับตัวเองขึ้นไปสร้างมาตรฐานใหม่ของตลาดด้วยการเป็น องค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Telco ผ่านการวางโครงสร้างพื้นฐานและดึงศักยภาพของพาร์ทเนอร์ภายใต้ Digital Business Ecosystem ที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ให้สามารถออกมาสร้างบริการและโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานของทุกองค์กร และต้องการทรานสฟอร์มตัวเองตั้งแต่ภาคธุรกิจ SMEs ไปจนถึงระดับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่างๆ

นายธนพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ด้วยศักยภาพของ AIS เรามองตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นหนึ่งใน Digital Business Ecosystem ที่วันนี้เราทำงานในฐานะผู้ส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงสร้างขีดความสามารถใหม่ๆ เพื่อให้ภาคธุรกิจมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน ผ่านแนวทางการทำงานบน 5 กลยุทธ์สำคัญได้แก่

1.เชื่อมต่อ 5G Ecosystem เพื่อการทำงานของภาคธุรกิจอย่างรอบด้าน โดยดึงศักยภาพของโครงข่าย 5G ที่ AIS ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้รองสำหรับภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และกลุ่มผู้ประกอบการ ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพในเรื่องต่างๆ ภายใต้ Ecosystem เดียวกัน อาทิ AR/VR, Robotic, AI และ IoT ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ทั้งภาครัฐและเอกชน

2.ยกระดับการทำงานของโครงข่ายด้วย Intelligent Network การเป็นผู้ให้บริการด้านการเชื่อมต่อที่ครบวงจรทั้งเครือข่ายใยแก้วนำแสงและเครือข่ายไร้สายสำหรับลูกค้าองค์กร ด้วยการมี Gateway ที่สามารถเชื่อมต่อทั้งแบนด์วิธในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทีมงานที่เชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการเพื่อส่งมอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าตามรูปแบบและพฤติกรรมของการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

3.มุ่งเสริมความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์ม ด้วยการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ AIS สามารถขยายผลการให้บริการลูกค้าองค์กรในฐานะผู้ให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มด้าน CCII ที่ครอบคลุม เทคโนโลยีที่ครบครัน ทั้ง โซลูชันคลาวด์ (Cloud) บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) บริการ IoT (Internet of Things) และบริการด้านไอซีทีโซลูชัน (ICT Solution)

4.เสริมอาวุธด้านการตลาด และเพิ่มโอกาสการเติบโตด้วย Business Big Data การนำประสบการณ์ด้านงานดูแลลูกค้าทั่วไป มาเสริมกับการใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขัน รวมถึงอาวุธใหม่ๆ สำหรับการสื่อสารทางการตลาดที่จะสร้างยอดขายและการเติบโตได้มากยิ่งขึ้น

5.ส่งมอบบริการด้วยทีมงานมืออาชีพ การมี ซีเอส ล็อกซอินโฟ หรือ CSL เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน ทำให้วันนี้ AIS Business เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในตลาดที่มีความพร้อมสูงสุด มีบุคลากรในสายงาน ICT ที่เชี่ยวชาญและรอบด้าน ทำให้การส่งมอบบริการเพื่อตอบโจทย์องค์กรธุรกิจมีความต่อเนื่อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ประเมิน ติดตั้ง บริหารโครงการ และบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ

ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของประเทศให้มีความแข็งแกร่งด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้วันนี้ AIS สามารถนำศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะ 5G และ ICT มาเชื่อมต่อการทำงานกับลูกค้าองค์กร ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ ไปจนถึงกลุ่ม SMEs ให้มีความพร้อมในการทำ Digital Transformation เพื่อยกระดับการทำงานให้มีความพร้อมต่อความท้าทายใหม่ๆ ในบริบทโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

“โดยในปีนี้เราจะยกระดับตัวเองจากผู้ให้บริการดิจิทัลสู่การเป็น Cognitive Telco หรือองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ ซึ่งจะทำให้ภารกิจในการนำเทคโนโลยีเข้าช่วยการทรานสฟอร์มให้ภาคธุรกิจมีเครื่องมือและขีดความสามารถจะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันเป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงวิสัยทัศน์ใหม่ของเราในครั้งนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศมีเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความท้าทายในอนาคต” นายธนพงษ์ กล่าว

Back to top button