ESG เทรนด์ธุรกิจแห่งยุค ตอบโจทย์การลงทุนระยะยาว

TRUE ตอกย้ำองค์กร ESG ซึ่งนอกจากจะติด 1 ใน 14 บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class ของ S&P Global Yearbook 2024 แล้ว ยังคว้าอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืน DJSI ปี 66 ด้วยคะแนนสูงสุดในกลุ่มโทรคมนาคมของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 6


หัวใจสำคัญของการลงทุนของบิ๊กคอร์ป หรือกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในการทำธุรกิจในยุคนี้และต่อไป ไม่อาจโฟกัสกับการทำกำไรเพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป แต่ต้องคำนึงถึงการสร้างมูลค่าระยะยาวในหลากหลายมิติทั้ง ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และสังคมส่วนรวม เนื่องจากมีการเชื่อมโยงพึ่งพากันระหว่างสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้ภาคธุรกิจต้องกลับมาใส่ใจให้ความสำคัญและร่วมดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้องค์กรเติบโตได้ในระยะยาว แนวคิด ESG หรือแนวคิดความยั่งยืนจึงจำเป็นสำหรับทางรอดของธุรกิจ ขณะเดียวกันก็จะเป็นทางเลือกที่สำคัญของนักลงทุนในยุคนี้

ทำไมนักลงทุนทั่วโลก ถึงสนใจลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่อง ESG 

ผู้คนยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่ออุดหนุนธุรกิจที่ช่วยดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นวิกฤตที่ต้องเร่งแก้ไขเพื่อโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนทั่วโลกต่างหันมาให้น้ำหนักกับ ESG หรือแนวคิดการทำธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ไม่มุ่งเน้นผลกำไรเพียงอย่างเดียว ในการพิจารณาประกอบการลงทุนโดยให้ความสำคัญกับธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อ Environment-สิ่งแวดล้อม

ได้แก่ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า การลดมลภาวะ การลดก๊าซเรือนกระจก Social-สังคม ได้แก่ การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรม การเคารพสิทธิมนุษยชน การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน และ Governance-ธรรมาภิบาล ได้แก่ การบริหารงานขององค์กรอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทและการบริหารจัดการความเสี่ยงในมิติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลที่ดีต่อการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย

จะรู้ได้อย่างไร ว่าบริษัทไหนให้ความสำคัญเรื่อง ESG ที่น่าเชื่อถือได้

ที่ผ่านมาเราได้เห็นหลายองค์กรนำ ESG มาตั้งเป็นหนึ่งในเป้าหมาย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทนั้นอยู่บนหลักการ ESG มากน้อยแค่ไหน ตัวชี้วัดความสำเร็จคือคำตอบ แม้ขณะนี้จะมีตัวชี้วัดประเมินผลบริษัทด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนหลายแห่งด้วยกัน แต่หนึ่งในตัวชี้วัดสากลที่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกให้การยอมรับและใช้เป็นข้อมูลการลงทุน คือ ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ภายใต้การบริหารของ S&P Global ที่มีการใช้กระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มข้น โปร่งใส ด้วยมาตรฐานการประเมิน ESG ครบทุกด้านทั้ง เศรษฐกิจ/ ธรรมาภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงการันตีได้ว่าบริษัทที่ผ่านประเมินดัชนีความยั่งยืน DJSI นั้นต้องเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ไม่เพียงโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจแต่ยังสนับสนุนให้ธุรกิจมีความยั่งยืนเติบโตได้ในระยะยาว

บริษัทที่ ได้ DJSI สะท้อนอะไร

ดัชนีความยั่งยืนระดับเวิลด์คลาส DJSI เป็นดัชนีหลักทรัพย์ของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ผ่านการประเมินความยั่งยืน ที่มีผู้ลงทุนสถาบันและกองทุนต่างๆ ทั่วโลกให้ความสนใจลงทุน คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ในประเทศไทยได้มีการสำรวจผลตอบแทนหุ้นไทยใน DJSI โดยฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าผลตอบแทนรวมสะสมย้อนหลังอยู่ในระดับที่ดี สะท้อนว่าบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล ไม่ได้เน้นผลกำไรแต่เพียงอย่างเดียว เป็นบริษัทที่มีความพร้อมในการสร้างคุณค่าระยะยาวช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

ประเทศไทยทุบสถิติ DJSI คว้าคะแนนสูงสุดอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ในปี 66 บริษัทไทยยังคงยืนหนึ่งเรื่องความยั่งยืนระดับโลก จากประกาศบริษัททั่วโลกใน S&P Global Yearbook 2024 มีหลายบริษัทชั้นนำในไทย ที่เข้ารับการประเมินร่วมกับบริษัททั่วโลก มากกว่า 3,500 บริษัท ใน 62 กลุ่มอุตสาหกรรม

โดยพิจารณาจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์ของดัชนี DJSI และได้คะแนนสูงสุดของโลก อาทิ BTS, BDMS, BJC, OR, SCGP, TOP, TRUE, PTTGC และ TU อีกทั้งยังได้คะแนนสูงสุดมากอย่างต่อเนื่องหลายปี ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุนทั่วโลก

ทรู คอร์ปอเรชั่น ติดอันดับท็อปความยั่งยืนระดับโลกอย่างต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน

ตัวอย่างบริษัทที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ กับบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของเทเลคอม เทคคอมปานีไทย ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ในปีนี้ นอกจากจะเป็น 1 ใน 14 บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class ของ S&P Global Yearbook 2024 แล้ว ยังคว้าอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืน DJSI ปี 66 ด้วยคะแนนสูงสุดในกลุ่มโทรคมนาคมของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ด้วยการนำศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐาน ระบบนิเวศดิจิทัลครบวงจร และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาร่วมผลักดันการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ที่พร้อมเดินหน้าสร้างคุณค่าในระยะยาวให้แก่ผู้คนในสังคมและประเทศ

Back to top button