KCE รับผลกระทบน้อยจาก Volkswagenแนะซื้อราคาพื้นฐานใหม่เพิ่มเป็น 63 บาท
KCE โบรกฯคาดได้รับผลกระทบน้อยจากเรื่อง VW ทั้งนี้ KCE ได้ทำการจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจร (PCB) ให้กับ VW ทั้งในส่วนของ model รถยนต์ที่ใช้ gasoline และดีเซล โดยผ่านลูกค้าประเภท Tier 1 ซึ่งปกติจะจำหน่ายสินค้าให้กับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งยอดขายที่ได้จาก VW เป็นสัดส่วน 4-8% ของยอดขายทั้งหมดในปัจจุบัน ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ประเภทดีเซลของ VW เป็นสัดส่วน 40% จึงสามารถกล่าวได้ว่าผลกระทบเรื่องข่าวข้างต้น จึงมีน้อยต่อ KCE อีกทั้งลูกค้าของ KCE ก็สามารถเปลี่ยนไปจำหน่ายให้กับค่ายรถยนต์อื่นๆได้อีกแนะซื้อราคาพื้นฐานใหม่เพิ่มเป็น 63 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ก.ย.) ว่า บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE มีความกังวลจะได้รับผลกระทบทางลบจากเรื่อง Volkswagen (VW) ที่มีการใช้ซอฟแวร์ที่ทำให้รถยนต์มีการปล่อยมลพิษน้อยกว่าปกติ หรือเป็น clean diesel car รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจึงสั่งให้ VW ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีเรียกคืน (recall) รถยนต์กลับไป เรื่องนี้ถูกเปิดเผยเมื่อหน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (The Environmental Protection Agency – EPA) กล่าวหา VW ว่าบริษัทได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จะลดอัตราการปล่อยก๊าซกลุ่มไนโตรเจนออกไซด์จากรถยนต์ ซึ่งก็เหมือนจะดูดี หากแต่ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะทำงานก็ต่อเมื่อรถยนต์กำลังถูกทดสอบการปล่อยไอเสียเท่านั้น ดังนั้นจึงคาดกันว่ายอดขายรถยนต์ของ VW จะลดลงอย่างมากในระยะเวลาอันใกล้นี้ และอาจกระทบไปยังระยะยาว หากค่ายรถยนต์แห่งนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
แต่เราคาดว่า KCE ได้รับผลกระทบน้อยจากเรื่อง VW ทั้งนี้ KCE ได้ทำการจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจร (PCB) ให้กับ VW ทั้งในส่วนของ model รถยนต์ที่ใช้ gasoline และดีเซล โดยผ่านลูกค้าประเภท Tier 1 ซึ่งปกติจะจำหน่ายสินค้าให้กับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งยอดขายที่ได้จาก VW เป็นสัดส่วน 4-8% ของยอดขายทั้งหมดในปัจจุบัน ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ประเภทดีเซลของ VW เป็นสัดส่วน 40% จึงสามารถกล่าวได้ว่าผลกระทบเรื่องข่าวข้างต้น จึงมีน้อยต่อ KCE อีกทั้งลูกค้าของ KCE ก็สามารถเปลี่ยนไปจำหน่ายให้กับค่ายรถยนต์อื่นๆได้อีก
อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานแห่งใหม่มาถึง 70% แล้ว จากที่ไปถึงจุดคุ้มทุนที่ 50% ได้ ตั้งแต่ไตรมาส 2/58 ที่ผ่านมา นอกจากนี้บริษัทยังได้รับปัจจัยบวกจากเรื่องเงินบาทที่อ่อนค่า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่อัตรากำไรขั้นต้นในงวดไตรมาส 3/58 จะออกมาดี เราคาดว่าสูงเป็น 31%
คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 63.00 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 59 ที่ 13 เท่า แม้ว่าลูกค้าหลักของ KCE จะอยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว แต่อุปสงค์ในสินค้า PCB ของ KCE ก็ยังคงแข็งแกร่ง จึงอาจกล่าวได้ว่าจากนี้ไปการเติบโตของ KCE จะมาจากแรงผลักดันของการขยายโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งปัจจุบันก็มีความคืบหน้าดี ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
