AAV:แนวโน้มสดใสพร้อมมูลค่าหุ้นถูกแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6.60 บาท

AAV แนวโน้มการเติบโตยังคงแข็งแกร่งตลอดทั้งไตรมาส 1/59 มูลค่าในปัจจุบัน PER สิ้นปี 2559 อยู่ที่ 11.2 เท่า ซึ่งเป็นมูลค่าที่ถูกอย่างไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากเป็นระดับเดียวกันกับที่หุ้นซื้อขายกันในช่วงโลว์ซีซั่นเมื่อกำไรหลักอ่อนตัว ตัวอย่างเช่น หุ้นซื้อขายกันที่ PER ปี 2558 ที่ 11.1-11.2 เท่า ในช่วงไตรมาส 2/58-3/58 เมื่อกำไรหลักอยู่ที่ระหว่าง 290-323 ล้านบาท ในอดีตหุ้นซื้อขายกันที่ PER 13-14 เท่า ในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งคิดเป็นราคาหุ้นที่ 5.70-6.10 บาท


บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (14 มี.ค.) ว่า บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV แนวโน้มการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2559 ข้อมูลจากรมการท่องเที่ยว ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 15%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 3 ล้านคนในเดือน ม.ค. นำโดยนักท่องเที่ยวจีน (เพิ่มขึ้น 45% เทียบช่วงเดียวกนของปีก่อน) แม้ว่าอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจะต่ำกว่าอัตราการเติบโตในปี 2558 ที่ 20% จากฐานที่ค่อนข้างต่ำในปี 2557 จากปัญหาความไม่สงบทางการเมือง แต่ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 13% ในช่วงปี 2554-2558

นอกจากนี้ยังสูงกว่าอัตราการเติบโต 7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน(จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 32 ล้านคนในปี 2559) ที่ประมาณการโดยหน่วยงานของรัฐ คิดว่าไทยแอร์เอเชีย (TAA) จะได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากขึ้นและมีค่าโดยสารเฉลี่ยสูงขึ้น เนื่องจากราคาค่าตั๋วโดยสารของเส้นทางต่างประเทศโดยปกติจะสูงกว่าเส้นทางในประเทศ

นอกจากการดีดตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่งของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติในไตรมาส 1/59 หลังจากการชะลอตัวในไตรมาส 4/58 คาด TAA ยังได้รับผลประโยชน์จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับสายการบินนกแอร์ (NOK) ทั้งในเรื่องของจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้นและค่าโดยสารภายในประเทศที่สูงขึ้น อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารในเดือน ม.ค.อยู่ที่ 86% (เพิ่มขึ้น 6 จุด (ppts) เทียบช่วงเดียวกนของปีก่อน) และแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 88% (เพิ่มขึ้น 4 ppts) ในเดือน ก.พ.คาดอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารของ TAA ในไตรมาส 1/59 จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 86% เพิ่มขึ้น 3 ppts เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 4 ppts เทียบไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ราคาค่าโดยสารเฉลี่ยของบริษัทเพิ่มขึ้น 9% เทียบไตรมาสก่อนหน้าที่ 1,720 บาทต่อหัวในช่วงไตรมาส 1/59 จนถึงปัจจุบัน จากทั้งเส้นทางต่างประเทศและในประเทศ

นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ TAA คาดลดลงทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและเทียบไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 1/59 จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งคิดเป็น 39% ของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมทั้งหมดที่ลดลง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงคาดลดลง 41%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 29%เทียบไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 1/59

ตัวเลขสถิติต่างๆทีมีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาส 1/59 ส่งผลให้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกำไรหลักของ AAV ในไตรมาส 1/59 มากขึ้น เราประมาณการในเบื้องต้นว่า AAV จะรายงานกำไรหลักประมาณ 700 ล้านบาทในไตรมาส 1/59 เพิ่มขึ้น 42%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและเกือบ 300%เทียบไตรมาสก่อนหน้าโดยยังมีอัพไซด์ต่อการประมาณการกำไรไตรมาส 1/59 จากราค้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่าที่เราคาด จากราคาสปอตเฉลี่ยตั้งแต่ต้นไตรมาส 1/59 จนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าที่เราใช้ในประมาณการ

หากแนวโน้มการเติบโตยังคงแข็งแกร่งตลอดทั้งไตรมาส 1/59 มูลค่าในปัจจุบัน PER สิ้นปี 2559 อยู่ที่ 11.2 เท่า ซึ่งเป็นมูลค่าที่ถูกอย่างไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากเป็นระดับเดียวกันกับที่หุ้นซื้อขายกันในช่วงโลว์ซีซั่นเมื่อกำไรหลักอ่อนตัว ตัวอย่างเช่น หุ้นซื้อขายกันที่ PER ปี 2558 ที่ 11.1-11.2 เท่า ในช่วงไตรมาส 2/58-3/58 เมื่อกำไรหลักอยู่ที่ระหว่าง 290-323 ล้านบาท ในอดีตหุ้นซื้อขายกันที่ PER 13-14 เท่า ในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งคิดเป็นราคาหุ้นที่ 5.70-6.10 บาท แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6.60 บาท

 

Back to top button