‘ดาโอ” มองกำไร Q4 โตเด่น รายได้ใน-ต่างประเทศขยายตัวดี เชียร์ซื้อเป้า 20 บ.

บล.ดาโอ ประเมินผลประกอบการ OSP ยังอยู่ในทิศทางที่คาดไว้ คาดกำไรปกติไตรมาส 4/2568 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากทั้งในและต่างประเทศฟื้นตัว โดยเฉพาะรายได้พม่าที่ดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมคงประมาณการกำไรปี 68-69 เติบโตต่อเนื่องและมีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 20 บาท


บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(20 พ.ย.68) ว่า บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท แนวโน้มรายได้ไตรมาส 4 ปี 2568  คาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน (QoQ) โดยได้แรงหนุนจากรายได้ในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าปี 2569 ให้รายได้เติบโตระดับเลขหลักเดียว (single digit YoY) โดยตลาดต่างประเทศจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักด้วยอัตราเติบโตระดับเลขสองหลัก (double digit YoY) จากการฟื้นตัวของรายได้ในสหภาพเมียนมา ซึ่งคาดว่าจะเติบโตระดับ mid to high single digit ประกอบกับแผนรุกตลาดใหม่เพิ่มเติม ขณะที่รายได้ในประเทศยังคงขยายตัวระดับ single digit YoY โดยบริษัทมีแผนเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ (product innovation) ภายใต้ทุกแบรนด์อย่างต่อเนื่อง

ด้านประสิทธิภาพการทำกำไร บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A expenses) จะทรงตัวใกล้เคียงปีก่อน ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรในปีงบประมาณถัดไป โดยรายได้ในเมียนมาซึ่งเริ่มกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่เดือนกันยายนและตุลาคม ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2568 ฝ่ายวิจัยประเมินว่ากำไรปกติจะเติบโตจากทั้ง YoY และ QoQ โดยกำไร YoY เพิ่มขึ้นจาก GPM ที่ขยายตัวและ SG&A to sales ที่ปรับลดลง ขณะที่กำไร QoQ ได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มในประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงรายได้เมียนมาที่ปรับตัวดีขึ้นแบบ QoQ

ทั้งนี้ บล.ดาโอได้คงประมาณการกำไรปกติปี 25685 ที่ระดับ 3,495 ล้านบาท เติบโต 15% YoY และกำไรปกติปี 2569 ที่ 3,822 ล้านบาท เติบโต 9% YoY ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท โดยมองว่าปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง สะท้อนศักยภาพการเติบโตทั้งจากตลาดต่างประเทศที่กำลังเร่งตัว และตลาดในประเทศที่ยังมีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว

Back to top button