ILINK:ปรับราคาพื้นฐานใหม่เป็น 22.2 บ.ลุ้นงานนำสายไฟลงดินมูลค่า 2.5 พันลบ.

ILINKคงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาพื้นฐานใหม่ขึ้นเป็น 22.20 บาท เพราะมีการเปลี่ยนไปใช้ประมาณการปี 60 แทนปี 59 และประเมินด้วย P/E ปี 60 ที่ 16.5 เท่า ราคาพื้นฐานใหม่มีส่วนเพิ่มได้อีก 18%


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (30มิ.ย.) ว่า บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 59 ลง 13% เพื่อสะท้อนการได้รับงานติดตั้งสาย Fiber น้อยกว่าคาด อย่างไรก็ตามยังเติบโตได้ 16% เทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่กลับปรับเพิ่มกำไรหลักปี 60 ขึ้นอีก 14% หลังจาก ILINK ชนะงานประมูลของ AOT เป็นส่วนงานสาธารณูปโภค สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2  โดยร่วมประมูลกับสามประสิทธิ์ คาดว่าการบันทึกรายได้เป็น ปี 59- 52 ล้านบาท ปี 60- 670 ล้านบาท และปี 61- 279 ล้านบาท ทั้งนี้กำไรหลักปี 60 คาดว่าจะเติบโตทะยานถึง 59% หากเทียบกับ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือ ปี 59

คาดการณ์กำไรไตรมาส2/59 ลดลง 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและลดลง 24% เทียบไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากรายได้ทางด้านวิศวกรรมที่ลดต่ำลง แต่กำไรจะไปกลับไปสูงสุดในไตรมาส 4/59 เพราะมีการบันทึกรายได้จากโครงการที่เกาะสมุยซึ่งมีมูลค่า 2.3 พันล้านบาท คาดว่ารายได้จะเพิ่มเข้ามาถึง 400 ล้านบาท โดยกำหนดการคือ ผ่านครม. 12 ก.ค.59 การประมูลเริ่มได้ ส.ค.59 และบริษัทเริ่มรับรู้รายได้ ก.ย.59

คงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาพื้นฐานใหม่ขึ้นเป็น 22.20 บาท เพราะมีการเปลี่ยนไปใช้ประมาณการปี 60 แทนปี 59 และประเมินด้วย P/E ปี 60 ที่ 16.5 เท่า ราคาพื้นฐานใหม่มีส่วนเพิ่มได้อีก 18% เราเห็นว่าประมาณการ consensus ปี 60 ที่ 415 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าเรา 15% นั้นต่ำเกินไป คาดว่าเป็นเพราะยังไม่ได้นำโครงการของ AOT เข้ามารวม ส่วนโครงการที่จะช่วยเพิ่มประมาณการได้ หากได้รับคือ โครงการนำสายไฟฟ้าสู่ใต้ดิน ช่องนนทรี ของ กทม. 2.5 พันล้านบาท ซึ่งจะประมูล 21 ก.ค.59 และยังมีธุรกิจ Data Center ที่บริษัทถือหุ้น 33.3% เริ่มดำเนินการประมาณ ม.ค.60 ด้านความเสี่ยงคือ ความล่าช้าโครงการที่เกาะสมุย ก็อาจจะกระทบกำไรปี 59 ได้

 

Back to top button