SET ปิดลบ 3 จุด เผชิญแรงขายบิ๊กแคป หลัง “ฟุตซี่” ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย

SET ปิดลบ 3 จุด รับปัจจัยลบกดดันจาก “ฟุตซี่” ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย ทำให้มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมา มองแนวโน้มสัปดาห์หน้าทิศทางยังไม่ไปไหน ให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,700 จุด 


10 หุ้นกดดัชนีวันนี้

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 98,135.25 ล้านบาท 

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบๆ สลับบวก-ลบ ปัจจัยเชิงบวกมาจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน ประเมินมาตรการคว่ำบาตรทำรัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ รวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. ขณะที่คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้กลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่นมีแรงเก็งกำไรเข้ามา

ส่วนปัจจัยในประเทศ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยโดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อน คาดว่าจะทำให้ต่างชาติเข้ามามากขึ้น เป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว AOT, ERW, MINT

ขณะที่ปัจจัยลบวันนี้  FTSE rebalance ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย ทำให้มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมา แม้จะคาดว่าจะลดน้ำหนักลงเพียงประมาณ 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เป็นปัจจัยกดดัน sentiment ลงทุนทำให้ตลาดไปไหนไม่ไกล โดยในวันนี้ปัจจัยไม่แรงทั้งบวกและลบ

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า ก็คาดว่าตลาดก็ยังไปไหนไม่ไกล โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยในสัปดาห์หน้า ให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,700 จุด โดยในบริเวณ 1,680-1,700 จุดจะมีแรงขายทำกำไรออกมา เพื่อล็อกกำไรและเล่นรอบมากกว่า

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,189.79 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,330.47 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,552.32 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,923.55 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

JTS มูลค่าการซื้อขาย 2,459.79 ล้านบาท ปิดที่ 285.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

Back to top button