มนัท ชวนะประยูร

พล.อ.อ.มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดเผยว่า ทางสำนักงานฯ ได้หารือร่วมกับสายการบินพาณิชย์สัญชาติไทยทั้ง 7 แห่ง ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อเตรียมแผนรองรับการเดินทางของคนไทยที่ยังอยู่ในประเทศกัมพูชาและมีความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ยังมีคนไทยตกค้างอยู่ราว 500 คน โดยสายการบินไทย (THAI) ได้ดำเนินการเปลี่ยนชนิดเครื่องบินเป็นลำใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่งรองรับการเดินทางดังกล่าว ด้านนายสุรชัย หนูพรหม รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับรายงานการประกาศพื้นที่ห้วงอากาศตามแนวปะทะจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทางวิทยุการบินฯ ในฐานะผู้ดูแลน่านฟ้าได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินพาณิชย์ให้หลบเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว ขณะเดียวกัน กองทัพอากาศไทยได้ประกาศพื้นที่ D-Area ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามสำหรับภารกิจทางทหาร อย่างไรก็ตาม วิทยุการบินฯ ยืนยันว่าการให้บริการจราจรทางอากาศยังคงเป็นไปตามปกติ โดยจัดเส้นทางบินใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินอากาศแต่อย่างใด โดยในช่วงวันที่ 23–24 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีเที่ยวบินที่ต้องบินผ่านน่านฟ้ากัมพูชาประมาณวันละ 200 เที่ยวบิน และยังคงดำเนินการได้ตามปกติ รวมถึงเที่ยวบินระหว่างไทย-กัมพูชาที่มีอยู่วันละประมาณ 20 เที่ยวบินก็ยังให้บริการได้ตามปกติ ขณะที่ นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม การบินไทยได้ปรับขนาดเครื่องบินที่ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-พนมเปญ จากแอร์บัส A320 เป็นโบอิ้ง B787 เพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่งในเที่ยวบินเช้าและบ่าย โดยปัจจุบันยังมีที่นั่งว่างเที่ยวบินละประมาณ 50–60 ที่นั่ง ซึ่งเพียงพอสำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับ ทั้งนี้ การบินไทยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับขนาดเครื่องบินให้ใหญ่ขึ้นหากมีความต้องการเพิ่มขึ้น ด้าน นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA (บางกอกแอร์เวย์ส) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-พนมเปญ วันละ 2 เที่ยวบิน โดยมีการติดตามสถานการณ์และปริมาณผู้โดยสารอย่างใกล้ชิดทุกวัน ทั้งนี้ เนื่องจากเส้นทางพนมเปญมีหลายสายการบินไทยให้บริการ หากมีความจำเป็นหรือมีการร้องขอ บริษัทฯ สามารถเพิ่มจำนวนเที่ยวบินได้ทันที