มาตรการขยายวีซ่า

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจวีซ่า และอนุมัติการขยายระยะเวลาสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศไทยซึ่งมีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยพบว่า บจ.ที่จะได้รับผลดีดังกล่าวอยู่ในกลุ่มท่องเที่ยง การบิน และโรงพยาบาล โดยก่อนหน้านี้ พ.อ.อธิสิทธ์ ไชยนุวัฒน์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราวีซ่า ณ สถานทูต สถานกงสุลไทย จากเดิม 1 พันบาท และปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวให้แก่นักท่องเที่ยว จำนวน 19 ประเทศ ได้แก่ อัลเดอร่า บัลแกเรีย ภูฏาน จีน ไซปรัส เอธิโอเปีย อินเดีย คาซัคสถาน ลัตเวีย ลิโธเนีย มัลดีฟส์ มอลต้า เมอริเชียส โรมาเนีย ซานมาริโน ซาอุดิอาระเบีย ไต้หวัน ยูเครน อุซเบกิสสถาน จากเดิม 2 พันบาทเหลือ 1 พันบาทต่อคน โดยทั้ง 2 มาตรการเริ่ม 1 ธ.ค.59 - 28 ก.พ.60 ระยะเวลารวม 3 เดือน นอกจากนี้ อนุมัติการขยายระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทยสำหรับกลุ่มพำนักระยะยาว หรือ Longstay Visa ตามมาตรการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้าน Medical and Wellness Tourism ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่จะยื่นขอวีซ่าประเภทอยู่ชั่วคราว จากสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่าประเทศที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยด้วยวีซ่าประเภทอื่น และเมื่อพำนักอยู่ในประเทศไทยระยะหนึ่งและมีความประสงค์จะขอเปลี่ยนประเภทการขอรับการตรวจลงตราเป็นแบบพำนักระยะยาว จากเดิมที่อนุญาตให้พำนักในประเทศไทยครั้งละไม่เกิน 1 ปี เป็น 10 ปี โดยครั้งที่ 1 ไม่เกิน 5 ปี ในลักษณะของ Multiple Entry และจะสามารถต่ออายุครั้งที่ 2 ได้อีก 5 ปี ในลักษณะ Multiple Entry เช่นกัน ทั้งนี้ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติลดค่าธรรมเนียมวีซ่า 19 ประเทศ (รวมถึง "จีน") และขยายระยะเวลาวีซ่าจาก 1 ปี เป็น 10 ปี (เน้นให้กับผู้สูงอายุประเทศพัฒนาแล้ว) ประเมินว่าจะเป็นการแก้ปัญหานักท่องเที่ยวที่ลดลงจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญสำหรับช่วง High Season นี้ ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน และการท่องเที่ยว นอกจากนี้จะเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล จากนโยบายขยายระยะเวลาวีซ่า (เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ป่วยต่างชาติที่มารักษาในไทย) โดยกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบินแนะนำ (บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI, บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA คาดว่านโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวจากต่างชาติ ที่เน้นคุณภาพ จะเป็นบวกกับ THAI* และ SPA โดยตรงที่เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลาง - บน แนะนำ "ซื้อสะสม" THAI แนวรับ 24 บาท และ 23.8 บาท แนวต้าน 25.5 บาท และประเมินเป้าหมายระยะกลางที่ 28 - 29 บาท ขณะที่ ประเมินราคาน้ำมันในระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อธุรกิจสายการบิน ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงเพราะความกังวลราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้นมา เป็นโอกาส "ซื้อ" อีกครั้งสำหรับนักลงทุนที่ขายล๊อกกำไรไปแล้วที่ 25 บาทตามที่แนะนำก่อนหน้า ขณะที่ให้แนวรับ SPA ที่ 12.8 บาท แนวต้าน 13.7 บาท และถัดไปที่ 14.5 บาท ขณะที่ กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ (บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG) ประเมินจะได้อานิสงส์จากการมาตรการสนับสนุน Medical and wellness tourism (การยืดเวลาวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวสูงอายุ จากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว) แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" BDMS* แนวรับ 22.4 บาท แนวต้านแรก 23 บาท และถัดไปที่ 23.5 บาท ขณะที่ให้ แนวรับ CHG ที่ 2.76 บาท แนวต้านแรก 2.82 บาท และถัดไปที่ 3.10 บาท