สก็อตต์เบสเซนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกติดต่อกันในวันพุธ (13 ส.ค.68) ได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์เกือบเป็นเอกฉันท์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในการประชุมเดือนกันยายน ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลง และแรงขับเคลื่อนจากตลาดหุ้นทั่วโลก ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,922.27 จุด เพิ่มขึ้น 463.33 จุด หรือ +1.04% ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,466.58 จุด เพิ่มขึ้น 20.82 จุด หรือ +0.32% ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 21,14 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด หรือ +0.14% นักลงทุนให้น้ำหนักสูงว่า เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.50% หลังเงินเฟ้อทรงตัว และได้รับแรงหนุนสำคัญจากถ้อยแถลงของนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ซึ่งเผยว่า เฟดควรพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายนนี้ และอาจตามด้วยมาตรการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในช่วงถัดไป โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความพร้อมรองรับการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการจ้างงาน ขณะที่ดัชนีความผันผวน (VIX) ร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2567 สะท้อนความเชื่อมั่นในตลาด ในกลุ่มหุ้นรายตัว Apple ปรับขึ้น 1.6% หลังประกาศรุกธุรกิจ AI-powered robotics และ smart home devices ส่วนกลุ่ม “Magnificent Seven” อย่าง Nvidia, Alphabet และ Microsoft ปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่ Paramount Skydance พุ่ง 36.7% หลังคว้าสิทธิ์ออกอากาศ UFC แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ส่วน CoreWeave ร่วง 21% จากผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด ด้านหุ้นค้าปลีก Amazon ปรับขึ้นหลังประกาศขยายบริการส่งสินค้าสดภายในวันเดียวไปยัง 2,300 สาขา กดดันให้ Kroger และ DoorDash ร่วงตาม ขณะที่หุ้นกลุ่มก่อสร้าง PulteGroup และ Lennar พุ่งกว่า 5% รับแรงคาดหวังดอกเบี้ยจำนองอาจปรับลด