อาคารยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์

“ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท” หรือ CPNREIT เผยผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ยังแข็งแกร่ง สะท้อนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมค้าปลีกและสำนักงานอย่างชัดเจนโชว์อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงกว่า 90% ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากผู้เช่าและผู้ใช้บริการ พร้อมรับอานิสงส์จากเทรนด์ "Experiential Tourism" จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ระดับประเทศ Thailand's Pride Celebration 2025 “Pride For All” คาดดึงดูดผู้ร่วมงานตลอดเดือนมิถุนายนกว่า 1.3 ล้านคน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อมหนุนไทยสู่การเป็น World Festive Destination และจัดแคมเปญ Summer Grand Sale 2025 มหกรรมเซลกลางปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี หนุนเพิ่มทราฟฟิก 25-30% นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ กรรมการ บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ CPNREIT เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์อุตสาหกรรมค้าปลีกจากมุมมองของผู้ให้เช่าในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเห็นถึงสัญญาณเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานของ CPNREIT ที่มีสัดส่วนสัญญาเช่าแบบ Turnover Rent หรือส่วนแบ่งจากยอดขายของผู้เช่าประมาณ 40% ของรายได้ค่าเช่าทั้งหมด ทั้งนี้ นับเป็นมาตรวัดโดยตรงที่สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินงานของผู้เช่า ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว รายได้ค่าเช่าของผู้เช่าในกลุ่มนี้ยังคงมีการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่นับรวมศูนย์การค้า 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง รายได้ค่าเช่าและบริการจากศูนย์การค้าหลักเติบโตขึ้นจากการปรับเพิ่มค่าเช่าตามสัญญา ขณะที่รายได้ค่าเช่าจากอาคารสำนักงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% ของอาคารยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์ และรายได้ค่าเช่าจากโรงแรมก็ปรับตัวสูงขึ้นตามสัญญาเช่นกันจากการปรับปรุงพื้นที่ โดยปัจจัยสำคัญที่ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของ CPNREIT คือ อัตราการต่อสัญญา (Renewal Rate) ของศูนย์การค้าที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้อัตราการเข้าใช้พื้นที่ (Occupancy Rate) โดยเฉลี่ยยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 90% สะท้อนถึงคุณภาพและความมั่นคงของผู้เช่าส่วนใหญ่ของกองทรัสต์ ขณะเดียวกัน ศูนย์การค้าที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง (เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต) แม้จำนวนผู้ใช้บริการลดลงในช่วงดังกล่าว แต่เป็นเพียงผลกระทบชั่วคราวจากการปรับปรุงพื้นที่ โดยพิจารณาจากยอดทราฟฟิกผู้ใช้บริการ (Traffic Recovery) ในไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ระดับ 88% ของช่วงสถานการณ์ปกติ อีกทั้งยังสะท้อนว่าผู้ใช้บริการยังคงกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ CPNREIT มุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยปัจจุบันกองทรัสต์ฯ อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลและพิจารณาการลงทุนในศูนย์การค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยจะให้ความสำคัญกับศูนย์การค้าที่มีผลประกอบการที่ดี และอยู่ในทำเลที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงให้กับรายได้และช่วยสร้างการเติบโตของผลตอบแทนของ CPNREIT ในระยะยาว อีกทั้ง ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนของ CPNREIT ในอนาคตอีกด้วย นางสาวนภารัตน์ กล่าวเพิ่มว่า ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจศูนย์การค้าและพื้นที่ค้าปลีก ชี้ให้เห็นว่าเทรนด์ค้าปลีกในระดับโลกได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ ‘Experiential Tourism’ หรือการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ในฐานะ Sponsor ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ของ CPNREIT ที่มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมต่าง ๆ ภายในศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และสร้างความแตกต่างให้กับศูนย์การค้าในเครือ โดยให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ ทั้งในด้านไลฟ์สไตล์ ความบันเทิง และกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงรวบรวมกิจกรรม Curated กว่า 1,000 Magnet Events ทั่วประเทศ เพื่อชูให้ประเทศไทยเป็น World Festive Destination ด้วยการดึงนักช้อประดับกลาง-บน ทั่วโลก ทั้งจากเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา, ตะวันออกกลาง ให้เข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายในเมืองไทย ผ่านเทศกาลและกิจกรรม Local Thai Festive ทั่วประเทศ สำหรับ ในเดือนมิถุนายน 2568 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศพร้อมจัดงาน Thailand's Pride Celebration 2025 “Pride For All” ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของ CPNREIT มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันไทยสู่ Pride Landmark ระดับโลก และพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 ในอนาคต สิ่งนี้นับเป็นการตอกย้ำถึงการเป็น No.1 Pride Landmark Nationwide ที่สร้างผลกระทบในวงกว้าง (Massive Impact) ทั่วประเทศได้อย่างแท้จริง ดังนั้นจึงได้ริเริ่มจัดกิจกรรม Inclusive Pride Activities แบบ Gen-tailored ที่ออกแบบตามแต่ละเจเนอเรชัน โดยมีไฮไลต์ Pride Parade ที่ยิ่งใหญ่กว่า 19 สาขา รวมถึงเซ็นทรัล พัทยา ซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพย์สินของกองทรัสต์ฯ คาดว่ากิจกรรมนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงทราฟฟิกจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ร่วมงานทั่วประเทศรวมกว่า 1.3 ล้านคนตลอดเดือนมิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ รวมไปถึง ได้เดินหน้าผนึกกำลังธุรกิจกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจชั้นนำทั่วประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในแคมเปญ “Summer Grand Sale 2025” มหกรรมเซลกลางปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ด้วยการให้ส่วนลดสูงสุดถึง 80% จากกว่า 28,000 แบรนด์ และ 12,000 ร้านค้า พร้อมชวนคนไทย “ช้อปช่วยชาติ” ด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว เพื่อเป็นแม็กเน็ตดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งกลุ่ม Short-haul, Long Haul และ Quality Shoppers จากทั่วโลก ดังนั้น เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงกลางปี และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2–3 นับเป็นการเดินหน้าผลักดันไทยสู่การเป็น Global Shopping Destination ที่แข่งขันได้ทั้งในเอเชียและเวทีโลก ด้วย Midyear Sale Campaign ที่ครบทุกหมวดสินค้า โดยตั้งเป้าเพิ่มทราฟฟิกทั่วประเทศอีก 25–30% จากกิจกรรรมนี้