เก็บภาษีปี 68

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2568 ที่จะสิ้นสุดปีภาษีในวันที่ 30 ก.ย.2568 กรมสรรพากรมีเป้าจัดเก็บภาษีอยู่ที่ 2.372 ล้านล้านบาท คิดเป็น 82% ของรายได้รัฐบาลทั้งหมด และคาดว่าผลการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรช่วงสิ้นปีงบประมาณอาจต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ประเมินว่าอาจต่ำกว่าเป้า 3.6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรจะพยายามทำให้ผลการจัดเก็บภาษีในปีงบ 2568 ไม่ให้ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท “เป้าปีงบประมาณ 2569 จำนวน 2.4 ล้านล้านบาท ยอมรับว่าเหนื่อยสุดๆ เพราะเป้าปี 2568 ก็ติดลบกว่าเป้า ซึ่งจะพยายามจัดเก็บปี 2568 ติดลบกว่าเป้าไม่ให้เกิน 2 หมื่นล้านบาท ตัวเลขอัพเดตล่าสุดติดลบประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท (อย่าให้ลบเกิน 1% หรือไม่ควรติดลบเกิน 2.4 ล้านล้านบาท) ซึ่งจะขอให้ปรับลดเป้าจัดเก็บภาษีก็ไม่ได้ เพราะได้คำนวณบนพื้นฐานรายจ่ายประจำของรัฐบาลที่อัพเดตช่วง 2 ปีนี้แล้ว ซึ่งกรมสรรพากรพยายามจะหาภาษีตัวใหม่เพื่อสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กรมสรรพากร เนื่องจากภาษีปิโตรเลียมและ ภ.ง.ด.50 เป็นตัวทำให้จัดเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า และยังรอผลจัดเก็บ ภ.ง.ด.51 ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะต่ำกว่าเป้าเท่าไหร่ แต่เทียบเคียงดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้เลย พบว่าดัชนีปรับตัวลดลงมากกว่า 10%” แนวทางการบริหารจัดการภาษีคือ 1.ออกผลิตภัณฑ์ภาษีตัวใหม่ 2.ภาษีที่มีอยู่เดิมต้องขยับขึ้นภาษี ซึ่งผลิตภัณฑ์ภาษีตัวใหม่ อาทิ ภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร แต่เนื่องจากกฎหมายเดิมมีผลบังคับใช้เก็บแค่คนไทยเดินทางออกไปต่างประเทศ ซึ่งถ้าจะจัดเก็บก็ควรแก้กฎหมายให้เก็บนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรในขณะนี้ (ไม่ใช่ค่าเหยียบแผ่นดิน) การเก็บภาษีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทุกอย่างมีผลศึกษาอยู่แล้ว เหลือเพียงรัฐบาลตัดสินใจ ส่วนภาษีเดิมที่มีอยู่ก็กำลังศึกษาการเพิ่มฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป “ภาษีที่เกี่ยวกับตลาดหุ้น Capital Gain Tax ศึกษามา 2 ปีแล้ว แล้วก็ชะลอออกไป ซึ่งตอนนี้กรมสรรพากรมีไอเดียว่า จะเสนอกระทรวงการคลังเก็บเฉพาะคนที่ได้หุ้นจากข้างนอก แล้วมาจดทะเบียน (พวกมือแรก) หมายถึง ก่อตั้งบริษัทแล้วเอาหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ เก็บจากคนที่ถือหุ้นมือแรกเท่านั้นช่วงเปลี่ยนมือจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน (Initial Public offering : IPO) เป็นเพียงไอเดียที่ยังไม่ได้เสนอกระทรวงการคลัง รอคุยกับรองนายกฯและรมว.คลังก่อน ว่าจะมีแนวทางอะไร เพราะเก็บ Capital Gain Tax ไม่ได้ในช่วงที่ผ่านมา” อธิบดีกรมสรรพากร ระบุ