เมืองอันหนิง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ส.ค.68) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง–ล้านช้าง (Mekong–Lancang Cooperation: MLC) ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 13–15 สิงหาคม 2568 เปิดเผยว่า ได้รับเชิญจากนายหวัง อี้ กรรมการกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ให้เข้าร่วมการจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในการหารือดังกล่าว นายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อจีนในฐานะผู้มีบทบาทสร้างสรรค์ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชา อย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคี และการผลักดันให้เกิดการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอาเซียนร่วมสนับสนุน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ไทยและกัมพูชาต้องร่วมมือกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน เพื่อลดความตึงเครียดและฟื้นฟูความเป็นปกติสุขของพื้นที่ พร้อมขอบคุณนายหวัง อี้ สำหรับการสนับสนุนในประเด็นดังกล่าว โดยคาดว่าจะมีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การหารือในที่ประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (RBC) ภายในเดือนนี้ ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายยังเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลคลาดเคลื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ ต่อมาในช่วงค่ำวันเดียวกัน ตามเวลาในประเทศไทย เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok ของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 นายหวัง อี้ ได้เชิญนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย เข้าร่วมการจิบน้ำชาที่เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน เพื่อหารืออย่างเป็นมิตรและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา ท่ามกลางบรรยากาศที่กลมกลืน นายหวัง อี้ กล่าวว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างไม่ต้องการให้ความขัดแย้งชายแดนดำเนินต่อไป และยินดีรื้อฟื้นการเจรจาเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศล้านช้าง–แม่โขงที่จัดขึ้นในเมืองอันหนิงถือเป็นโอกาสที่ดี โดย “อันหนิง” ในภาษาจีนหมายถึงสันติภาพ ความสามัคคี และปรองดอง ซึ่งสะท้อนแนวทางที่ประเทศเพื่อนบ้านควรปฏิบัติต่อกัน พร้อมย้ำว่าการคลี่คลายความขัดแย้งย่อมดีกว่าการสร้างความขัดแย้งขึ้นใหม่ และหวังว่าไทยและกัมพูชาจะร่วมกันเปล่ง “เสียงแห่งอันหนิง” นายหวัง อี้ ย้ำว่า จีนสนับสนุนไทยและกัมพูชาในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาความเข้าใจผิด สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และฟื้นฟูการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือให้เป็นปกติ รวมทั้งปฏิบัติตามมติของการประชุมวิสามัญคณะกรรมการเขตแดนไทย–กัมพูชา และข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ อีกทั้งสนับสนุนให้อาเซียนมีบทบาทอย่างเหมาะสมตาม “แนวทางของอาเซียน” พร้อมสนับสนุนการเปิดจุดผ่านแดนโดยเร็ว และให้ความช่วยเหลือด้านการกำจัดทุ่นระเบิดและกิจกรรมอื่น ๆ ในพื้นที่ชายแดน นายหวัง อี้ ยังได้ยกสุภาษิตจีนโบราณว่า “พี่น้องทะเลาะกันภายในรั้วบ้าน แต่ร่วมปกป้องการรุกรานจากภายนอก” เพื่อย้ำว่า ไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านและพี่น้องกันอย่างถาวร เชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศสามารถจัดการข้อพิพาทเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และร่วมกันเผชิญความท้าทายระดับโลก ซึ่งจะได้รับการต้อนรับจากประชาชนทั้งสองประเทศ และเป็นความคาดหวังร่วมของประเทศในภูมิภาค