S&PASX200

ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวกส่วนใหญ่ในวันนี้ (12 ส.ค.68) ส่วนทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้ที่ปรับตัวลบ โดยดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน อยู่ที่ระดับ 3664.96 จุด บวก17.41 จุด หรือ 0.48% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 9129.80 จุด บวก 12.20 จุด หรือ 0.13% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 24894.53 จุด ลบ 12.28 จุด หรือ 0.05% ขณะที่ ดัชนี นิกเกอิต ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 42804.89 จุด บวก 984.41 จุด หรือ 2.35% และ ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ระดับ 3228.05 จุด บวก 21.28 จุด หรือ 0.66% ทั้งนี้เป็นผลจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อขยายเวลาข้อตกลงพักรบทางภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ออกไปอีก 90 วันแล้ว เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่อัตราภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนจะกลับไปสูงถึงเลขหลักร้อย โดยเดิมที ข้อตกลงพักรบทางภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีกำหนดจะสิ้นสุดในวันนี้ (12 ส.ค.) เวลา 00:01 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออก หรือ 11:01 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย คำสั่งดังกล่าวจึงช่วยยับยั้งไม่ให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนพุ่งสูงถึง 145% ขณะที่อัตราภาษีของจีนต่อสินค้าสหรัฐฯ พุ่งแตะ 125% ปัจจุบัน สินค้านำเข้าจากจีนต้องเสียภาษีในอัตรา 30% ซึ่งประกอบด้วยอัตราพื้นฐาน 10% และภาษีที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลอีก 20% ส่วนจีนก็ได้ลดอัตราภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ลงมาที่ 10% เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายเคยประกาศพักรบในข้อพิพาทการค้าหลังการเจรจาที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนพ.ค. โดยตกลงระยะเวลา 90 วันสำหรับเจรจาต่อไป ก่อนจะพบกันอีกครั้งที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ปลายเดือนก.ค. แต่ไม่ได้ประกาศขยายเวลาพักรบการค้าเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรอดูรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประกาศในวันนี้ เวลา 19:30 น. ตามเวลาไทย โดยคาดว่าจะเป็นตัวกำหนดความชัดเจนให้กับนักลงทุน เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อเริ่มสะท้อนผลกระทบโดยตรงจากภาษีนำเข้าต่อผู้บริโภค ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 0.60% ภายในเดือนธ.ค. ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปรายใหญ่ปรับตัวลดลงก่อนถึงเส้นตายการเก็บภาษีนำเข้า และการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าที่กำหนดให้แบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายชิปในจีนให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยนักวิเคราะห์มองว่าการเก็บภาษีนี้อาจกระทบต่อกำไรของบริษัทผู้ผลิตชิป และอาจเป็นบรรทัดฐานให้รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีจากการส่งออกสินค้าอื่น ๆ นอกเหนือจากเซมิคอนดักเตอร์