
MINT ‘ป๊อปมาร์ท’ ฟีเวอร์.!
ภาพบรรดาสาวกกล่องสุ่ม (อาร์ตทอย) ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แห่มาเข้าคิวรออย่างล้นหลาม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา เพื่อซื้อสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ
ภาพบรรดาสาวกกล่องสุ่ม (อาร์ตทอย) ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แห่มาเข้าคิวรออย่างล้นหลาม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา เพื่อซื้อสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ Landmark Limited และสินค้า Thailand Limited ที่มีวางจำหน่ายเฉพาะ POP MART Global Landmark Store สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการ ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก บนชั้น 7 ไอคอนสยาม
สะท้อนถึงกระแสฟีเวอร์ของ POP MART แบรนด์อาร์ตทอยระดับโลกจากจีนที่ไม่เสื่อมคลาย มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นะสิ…
พิสูจน์ทราบได้จากงบการเงินงวด 6 เดือนของ POP MART ที่เพิ่งประกาศออกมาเติบโตกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมี รายได้ 63,000 ล้านบาท เติบโต 204% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 20,800 ล้านบาท เติบโต 397%…
ขณะที่ปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้เติบโตมากกว่า 50% หรือมากกว่า 20,000 ล้านหยวน หรือราว 90,000 ล้านบาท จากปี 2567 ที่มีรายได้ 13,000 ล้านหยวน หรือราว 58,000 ล้านบาท
โดยตัวอาร์ตทอยที่สร้างกระแสไปทั่วโลก มีตั้งแต่ LABUBU, MOLLY, SKULLPANDA, CRYBABY, DIMOO WORLD, HIRONO, HACIPUPU และอีกมากมาย…แค่ LABUBU ตัวเดียวก็สร้างยอดขายถล่มทลาย เฉพาะในเดือน มิ.ย. ยอดขาย LABUBU ในสหรัฐฯ พุ่งกระฉูด 5,000% เมื่อเทียบกับปีก่อนเลยทีเดียว
เรียกว่าวัยรุ่นอเมริกันถ้าไม่มี LABUBU ห้อยกระเป๋าคงเชยสุด ๆ…ส่วนวัยรุ่นไทย ไม่ต้องพูดถึง เพราะได้รับความนิยมมาสักพักแล้ว หลังจากเห็น “ลิซ่า BLACKPINK” โพสต์ห้อย LABUBU จนทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
เมื่อกระแส POP MART ฮอตฮิตติดลมบนขนาดนี้ แน่นอนว่าบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ในฐานะเป็นผู้ร่วมทุนถือหุ้นบริษัท ป๊อป มาร์ท (ไทยแลนด์) จำกัด ในสัดส่วน 42% ย่อมได้ประโยชน์ไปเต็มกระบุง
ที่น่าสนใจ ก่อนหน้านี้ ผู้บริหาร ป๊อป มาร์ท (ไทยแลนด์) เคยบอกว่า สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นสาขาแรกที่เปิดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2566 เป็นสาขาที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลก ตั้งแต่เดือนแรกจวบจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ยอดขายที่ POP MART Landmark Store ไอคอนสยาม ทำสถิติยอดขายวันแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ POP MART ในไทย
ปัจจุบัน POP MART ในประเทศไทยมีสาขาแบบสแตนด์อโลน 9 แห่ง ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เทอร์มินอล 21 อโศก, เซ็นทรัลลาดพร้าว, แฟชั่นไอส์แลนด์, เมกาบางนา, ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, เซ็นทรัลเวสต์เกต, สยามเซ็นเตอร์ และไอคอนสยาม รวมถึง Pop-up Store ตามหัวเมืองใหญ่อีก 3 แห่ง
แล้วถ้าไปย้อนดูผลประกอบการของป๊อป มาร์ท (ไทยแลนด์) จากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรงพาณิชย์ ในปี 2566 มีรายได้รวม 306.19 ล้านบาท กำไรสุทธิ 73.74 ล้านบาท นั่นหมายความว่า MINT ได้ส่วนแบ่งกำไรไป 30.97 ล้านบาท ขณะที่ปี 2567 มีรายได้รวม 5,331.13 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,604.67 ล้านบาท MINT ได้ส่วนแบ่งกำไรไป 673.96 ล้านบาท คิดเป็น 8.7% ของกำไรทั้งหมดที่ MINT ทำได้ในปี 2567 ที่ 7,750.22 ล้านบาท…ถือว่าไม่น้อยนะ
ส่วนในปีนี้ ถ้าดูจากกระแสฟีเวอร์ที่มีต่อเนื่อง ป๊อป มาร์ท (ไทยแลนด์) น่าจะสร้างรายได้และกำไรโตกระฉูดแหง ๆ เชื่อหัวไอ้เรืองสิ…
งั้น MINT ก็นอนตีพุงรอรับรู้ส่วนแบ่งกำไรไปได้เลย…ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะน้อยกว่าปีที่แล้วนะ
ว่าไปแล้ว MINT เป็นหุ้นที่มีของ (ดี) ซุกซ่อนอยู่นะเนี่ย…แต่น่าเสียดายที่ไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาโปรโมตให้นักลงทุนได้รู้ได้เห็น…
ระวังจะเข้าทำนองไก่ได้พลอยนะตัว..!?
…อิ อิ อิ…