DPAINT วิ่งสวนเจ้า (ของ) ขาย.!

มันแปลกดีนะ…มันแปลกดีนะ ปกติผู้ถือหุ้นใหญ่หรือเจ้าของเดิมขายหุ้นออกมา หุ้นตัวนั้นก็มักจะร่วงเป็นนกปีกหัก แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT กลับสวนทางกันแฮะ เพราะแทนที่หุ้นจะร่วงหลังจากเจ้าของเดิมขาย กลับวิ่งสวนซะงั้น…

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ก.ย. 2568 ราคาพุ่งไป 24.42% หรือปรับเพิ่มขึ้น 0.21 บาท ปิดตลาดที่ 1.07 บาทหน้าตาเฉย…

ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์แบบ 246-2 ของ ก.ล.ต.พบว่าเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2568 มี Big Lot หุ้น DPAINT 2 รายการ รวมทั้งสิ้น 60 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการขายหุ้นของ “กลุ่มตั้งคารวคุณ” นำโดย “อรรถพล ตั้งคารวคุณ” ขายหุ้นจำนวน 29 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.6086% ที่ราคาหุ้นละ 0.61 บาท ให้กับ “สิดาพัณณ์ สมบัติธีระ” ในขณะที่ “รณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ” ขายหุ้นจำนวน 31 ล้านหุ้น คิดเป็น 13.4782% ให้กับ “เพ็ญพร วงศ์นพรัตน์เลิศ”

แต่น่าแปลกที่ข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงกับที่ DPAINT แจ้งตลาดฯ ก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2568 มีการทำรายการ Big Lot ของผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ราย ได้แก่  “อรรถพล ตั้งคารวคุณ” ขายหุ้นจำนวน 29 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.61% ส่งผลให้เหลือถือหุ้น 9.78% และ “วาณุภัณฒ์ ตั้งคารวคุณ” ขายหุ้นล้างพอร์ตจำนวน 31 ล้านหุ้น คิดเป็น 13.48%  

ตกลง “ตั้งคารวคุณ” ใครขายหุ้นบ้างเนี่ย..?? งงไปหมดแล้ว

ที่จริงเป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า DPAINT ก่อตั้งโดย “กลุ่มตั้งคารวคุณ” นั่นคือ “อาจณรงค์ ตั้งคารวคุณ” แต่ปัจจุบันมีทายาทรุ่น 2 มารับไม้ต่อขับเคลื่อนธุรกิจ นำโดย “รณฤทธิ์” ลูกชายคนโต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการของ DPAINT ส่วน “อรรถพล” เป็นลูกชายคนเล็ก นั่งเป็นกรรมการของ DPAINT เช่นกัน

ก็ไม่รู้ว่า “กลุ่มตั้งคารวคุณ” มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรถึงได้ขายหุ้นออกมา…

ขนาดที่ว่ายอมขายขาดทุนกันเลยทีเดียว เนื่องจากราคาต้นทุนของทั้งคู่น่าจะอยู่ที่ราคาพาร์ 1.00 บาท แต่ขายที่ราคาหุ้นละ 0.61 บาท

แต่พอทั้งคู่ขาย…หุ้นวิ่งแฮะ โดยวานนี้ (22 ก.ย. 2568) ในช่วงเช้าก็วิ่งต่อนะ ส่วนที่เห็นปิดตลาดที่ 1.04 บาท ทรุดไป 2.80% น่าจะเป็นการขายทำกำไรแหละ

เอ๊ะ…หรือที่หุ้นไม่วิ่งก่อนหน้านี้ เป็นเพราะไปเยื่อมโยงกับกรณีของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK หรือเปล่า..?? แถมยังผสมโรงกับ “ตั้งคารวคุณ” บางคนถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษตั้งแต่วันแรกที่ย่างเท้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลไม่กล้าเข้าไปเก็งกำไรในหุ้น DPAINT…

ขณะที่ดูปัจจัยพื้นฐานของ DPAINT ก็ไม่ค่อยสู้ดี รายได้หดทุกปี ในขณะที่ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายติดลบ โดยปีที่แล้วรายได้รวมเหลือแค่ 717.96 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 165.04 ล้านบาท ส่วนครึ่งแรกของปีนี้ มีรายได้รวม 328.60 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 28.51 ล้านบาท

โอเค…แม้งบจะดูไม่ดี แต่ DPAINT เป็นบริษัทที่มีหนี้ไม่เยอะนะจิบอกให้ โดยมีสินทรัพย์รวม 950.25 ล้านบาท และมีหนี้สินรวม 514.53 ล้านบาท ในขณะที่ส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีมีแค่ 32.59 ล้านบาทเท่านั้น…

อ้อ…ดูแล้วที่งบไม่ดีคงไม่ใช่เรื่องของต้นทุนทางการเงิน แต่น่าจะมาจากยอดขายมากกว่า..?? 

ก็เห็น ๆ กันอยู่ทนโท่ว่า สถานการณ์ของอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเราไม่ค่อยสู้ดี สะท้อนได้จากเป้าการเปิดโครงการใหม่ของหลาย ๆ ค่ายอสังหาฯ ในปีนี้ที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แน่นอนว่ากระทบชิ่งมายังตลาดสีทาบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…ก็น่าเห็นใจอยู่นะ

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้สะท้อนราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมา เอ๊ะ…หรือจะเป็นแค่อาการตื่นตูมของนักลงทุนอ๊ะป่าว..??

เอาเป็นว่า เข้ามาเก็งกำไรได้ แต่ระวังไว้หน่อยละกัน

เดี๋ยวจะไปนอนนับดาวบนหอคอยช้างเผือก…แล้วจะมาร้องแรกแหกกระเชอภายหลังไม่ได้นะ…

…อิ อิ อิ…