STECON ปิดจุดด้อย.!

ช่วงปลายปี 2567 บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ของ “กลุ่มชาญวีรกูล” มีการปรับโครงสร้างภายในกลุ่ม เพื่อให้มีความคล่องตัวมากขึ้น


ช่วงปลายปี 2567 บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ของ “กลุ่มชาญวีรกูล” มีการปรับโครงสร้างภายในกลุ่ม เพื่อให้มีความคล่องตัวมากขึ้น จากเดิมถูกมัดตราสัง…อุ๊ย ผูกไว้กับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง…แต่พอขึ้นเป็น “โฮลดิ้ง คอมพานี” ก็ช่วยปลดล็อกด้านการลงทุน ทำให้สามารถขยับขยายไปลงทุนได้หลากหลายธุรกิจมากขึ้น

เห็นได้จากก่อนหน้านี้ ส่งบริษัท สเตคอน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกไปเกี่ยวก้อยกับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท อีสท์วอเตอร์ สเตคอน ยูทิลิตี้ส์ จำกัด เพื่อรองรับการลงทุนในธุรกิจด้านน้ำ มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนการถือหุ้นเป็น “สเตคอน เพาเวอร์”  ถือหุ้น 40% และ EASTW  ถือหุ้น 60%

ไม่แค่นั้น ล่าสุดไปจับไม้จับมือกับบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ด้วยการส่งบริษัทลูกที่ชื่อบริษัท สเตคเอ็กซ์ เวนเจอร์ส จำกัด (STECX) ไปซื้อหุ้นสัดส่วน 50% ในบริษัท เวอร์ติคอล พระราม 9 อัลไลแอนซ์ 1 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ NOBLE

“เวอร์ติคอล พระราม 9 อัลไลแอนซ์” เป็นเจ้าของโครงการ นิว เอปิค อโศก-พระราม 9 (NUE EPIC ASOK – RAMA 9) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม High Rise จำนวน 4 อาคาร บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ ย่านใจกลาง CBD โดยมีจำนวนห้องชุดทั้งหมด 3,116 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 14,000 ล้านบาท 

การเข้าลงทุนใน เวอร์ติคอล พระราม 9 อัลไลแอนซ์” ครั้งนี้ จึงถือเป็นการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยโครงการแรกของ  STECON ก็ว่าได้…

ว่าไปแล้วการจับมือกันระหว่าง STECON กับ NOBLE มีความน่าสนใจนะ…ในมุมของ STECON ต้องไม่ลืมว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่อนข้างอดอยากปากแห้ง เพราะไม่มีบิ๊กโปรเจกต์ออกมาเลย จะมีก็แต่โครงการเล็ก ๆ ของภาคเอกชน ซึ่งแค่พอประทัง…แต่ไม่พอยาไส้ แถมมีมาร์จิ้นต่ำอีกต่างหาก…พอไม่มีโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ แต่ด้วยความใหญ่ของ STECON ทำให้ยังต้องแบกต้นทุนเหมือนเดิม

การขยายไปลงทุนในธุรกิจที่อยู่อาศัย จึงเป็นการปิดจุดด้อย หรือความเสี่ยงจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนั่นเอง…

โดย  STECON จะได้ 2 ขาด้วยกัน…ขาแรก จากการรับรู้รายได้และกำไรจากโครงการ นิว เอปิค อโศก-พระราม 9  ซึ่งดูจากปัจจุบันที่มียอดขาย (Presale) แล้วประมาณ 60% คิดเป็นยอดขายรอโอน (Backlog) ที่ประมาณ 8,300 ล้านบาท ก็น่าจะเป็นโครงการที่ให้ผลตอบแทนงามอยู่หนา…

ส่วนอีกขา จะมาจากการเป็นผู้รับเหมาหลักให้กับโครงการนิว เอปิค อโศก-พระราม 9 ผ่านบริษัทลูก บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) อ๊ะนะ…

เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่องนะเนี่ย…

ส่วนในมุม NOBLE อันดับแรกได้พันธมิตรที่เป็นหนึ่งในบิ๊กรับเหมาก่อสร้างของประเทศไทยมาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ช่วยลดภาระการลงทุน เพราะมี STECON มาช่วยแชร์ครึ่งหนึ่ง

แต่ถ้าจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ NOBLE เป็นคู่หูคู่ดูโอ้อยู่กับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS มิใช่เหรอ..?? แล้วไหงมาปันใจให้ STECON ได้ล่ะเนี่ย…

เอ๊ะ…หรือ NOBLE จะเปลี๊ยนไป๋หลังจากมีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่…เป็นช็อตที่ต้องจับตากันต่อไป

กลับมาที่ STECON นับตั้งแต่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ก็กลายเป็นหุ้นที่มีออร่าผิดหูผิดตา…ทำให้มีแรงเข้ามาเก็งกำไรกันหนาแน่น ส่งผลให้ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาปรับขึ้นไปแล้ว 10% และรอบ 3 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 42%

แต่ดูทรงแล้ว ยังแรงส์ได้อีกนะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button