
“อนุทิน” แต่งตั้ง “เอกนิติ” ประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์การค้าสหรัฐ–เร่งถกลดภาษีต่ำกว่า 19%
นายกฯ “อนุทิน” แต่งตั้ง “เอกนิติ” ประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์การค้าสหรัฐฯ ขับเคลื่อนภารกิจเจรจาภาษีต่ำกว่า 19% และเร่งสรุป FTA ไทย–อียู ภายใน 4 เดือน เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจรักษาความสามารถการแข่งขันของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ต.ค.68) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐอเมริกา และการเร่งสรุปข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อวางรากฐานทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของประเทศในระยะยาว โดยถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการในช่วง 4 เดือน
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย และนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบในวงกว้าง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งการเจรจาเพื่อลดอัตราภาษีให้อยู่ในระดับต่ำกว่า หรือไม่เกินปัจจุบันที่ 19% เพื่อปกป้องภาคการส่งออก เกษตร อุตสาหกรรม การจ้างงาน และเศรษฐกิจโดยรวม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง คณะทำงานยุทธศาสตร์เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยมี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีจาก 6 กระทรวงหลัก ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธาน พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงาน โดยมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ
เพื่อบูรณาการการทำงานและขับเคลื่อนในระดับนโยบาย และสิ่งที่สหรัฐฯ เรียกร้องหลายประเด็นสอดคล้องกับสิ่งที่ควรปรับปรุงอยู่แล้ว อาทิ กฎระเบียบ การบังคับใช้กฎหมาย หรือมาตรฐานสินค้า
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ และ FTA ไทย – EU เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ขอให้รัฐมนตรีทุกคนกำชับและสั่งการในเรื่องที่จำเป็นกับผู้เข้าร่วมการเจรจาในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อช่วยกันหาทางออกให้การเจรจาสามารถจบลงได้ในเวลาอันเหมาะสม และนำมาซึ่งผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ
นายสิริพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ครม. เฝ้าติดตามเรื่องเจรจาภาษี US Reciprocal tariffs ว่า ตอนนี้กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ จะต้องมีการขับเคลื่อนเพื่อให้เป็นไปกรอบเพื่อให้ได้อัตราภาษี 19% ทั้งนี้ในขณะเดียวกัน ปัญหาไทย-กัมพูชา ยังเป็นหนึ่งในข้อต่อรองที่สหรัฐฯ ได้มาพูดคุยกับทางรัฐบาลไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ตอบไปชัดเจนถึงการยืนยัน 4 เงื่อนไข