THANI โบรกอัพเป้าใหม่ 2.20 บาท รับคุณภาพสินทรัพย์ดี-ดอกเบี้ยขาลงหนุน

บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น THANI ปรับราคาเป้าหมายปี 69 ขึ้นเป็น 2.20 บาท รับคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นและดอกเบี้ยขาลง หนุนกำไรปี 68-69 โตต่อเนื่อง พร้อมปันผลสูง 6-7%


บล.กรุงศรี เปิดเผยบทวิเคราะห์วันนี้ (6 พ.ย. 2568) โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI พร้อมปรับราคาเป้าหมายปี 2569 ขึ้นเป็น 2.20 บาท จากเดิม 2.05 บาท สะท้อนพัฒนาการเชิงบวกของคุณภาพสินทรัพย์ และแนวโน้มได้รับอานิสงส์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง

ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า และปี 2569 อยู่ที่ 1,187 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 10% ส่วนปี 2570 คาดกำไรสุทธิแตะ 1,272 ล้านบาท เติบโต 12% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับลดค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OPEX) และค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น

บล.กรุงศรีประเมินว่า กำไรสุทธิปี 2568-2569 จะกลับมาเติบโต 38% และ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่ผลประกอบการปี 2567 หดตัว ขณะที่ เงินปันผล (Dividend Yield) ยังอยู่ในระดับสูงที่ราว 6-7% ต่อปี

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัยและตลาดที่คาดไว้ราว 18% และ 15% ตามลำดับ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ต่ำกว่าคาด จากคุณภาพสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้น

กำไรสุทธิดังกล่าวเพิ่มขึ้น 277% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจาก

ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OPEX) ลดลง 40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการโอนกลับค่าใช้จ่ายด้อยค่ารถยึด

ค่าใช้จ่ายสำรองลดลง 63% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 46% จากไตรมาสก่อนหน้า จากคุณภาพลูกหนี้ที่ดีขึ้น และการลดลงของขาดทุนรถยึด

หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Gross NPL) ลดลง 44% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 3% จากไตรมาสก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี อัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.57% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.54% ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่เฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 ล้านบาทต่อเดือน ลดลงจาก 1,360 ล้านบาทในไตรมาส 3/2567 และ 1,160 ล้านบาทในไตรมาส 2/2568 ส่งผลให้สินเชื่อรวมลดลง 4% จากไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 13% ตั้งแต่ต้นปี

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของ THANI ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการลดลงของอัตราดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อผลประกอบการในช่วงปี 2568-2569

Back to top button