หนุ่มโวยเจ้าหน้าที่ NOK ชุ่ย! ทำ “น้องพอใจ” ตายคาเครื่องระหว่างส่งไปตรัง

หนุ่มโวยเจ้าหน้าที่ NOK ชุ่ย! ทำ “น้องพอใจ” ตายคาเครื่องระหว่างส่งไปตรัง


ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลจากเว็บไซต์ข่าวสด ถึงเรื่องราวจากเฟซบุ๊ก Itsares Khumdee ในการส่งสุนัขผ่านสายการบินแล้วภายหลังพบว่าเมื่อสุนัขไปถึงปลายทางได้เสียชีวิตลง โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าสุนัขตัวดังกล่าวเสียชีวิตก่อนขึ้นบินอยู่แล้ว และปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งหมด โดยผู้โพสต์เชื่อว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากสายการบินนำสัตว์เลี้ยงไว้ในที่ที่มีอากาศร้อนจนทำให้สุนัขเสียชีวิต โดยมีข้อความระบุว่า

“ขอเรียกร้องความยุติธรรมให้น้องพอใจ เนื่องด้วยวันที่ 12 ก.ค. 2559 เวลา 14:00 น. ที่ผ่านมาผมได้ส่งน้องพอใจย้ายบ้านให้กับพ่อแม่ใหม่ที่จังหวัดตรัง ส่งโดยคาร์โก้ของสายการบิน(ขอสงวนนาม) เที่ยวบิน DD7410 โดยพอไปถึงสนามบินทางเจ้าหน้าที่ก็ให้เปลี่ยนบล็อคใส่น้องหมาที่ผมเตรียมมาโดยแจ้งว่ามีขนาดเล็กเกินไป ผมก็ได้เปลี่ยนบล็อคตามที่พนักงานแจ้งในราคา 1,300 บาท และเสียค่าส่งทางเครื่องบินราคา 860 บาท โดยเครื่องบินจะเดินทางไปตรังเวลา 16:00 น.

แต่กฎต้องนำสัตว์เลี้ยงมาก่อน 2 ชั่วโมง ซึ่งผมได้ถามกับเจ้าหน้าที่แล้วว่า น้องหมาช่วงรอขึ้นเครื่องจะอยู่ห้องแอร์ตลอดเลยใช่ไหม พนักแจ้งว่าอยู่ห้องแอร์ตลอด ผมก็วางใจ และผมก็เดินทางกลับมาที่พัก และแจ้งให้กับพ่อแม่ใหม่น้องพอใจทราบว่าส่งน้องแล้ว และให้มารอรับที่สนามบินจ.ตรัง เวลา 17:20 นาที แต่เมื่อถึงเวลาผมก็ได้รับข่าวร้ายว่าน้องพอใจตาย โดยพ่อแม่ใหม่ที่มารับน้องพอใจได้แจ้งว่าสภาพน้องมีอาการตัวแข็งเกร็ง ตาไม่หลับ เหงือกซีด และอุจาระแตกรี่ราด ผมได้ยินข่าวถึงกลับขาทรุดไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับน้องหมาที่ผมรัก เพราะก่อนส่งขึ้นเครื่องน้องยังวิ่งเล่นแข็งแรงสดใสอยู่เลย ตอนนั้นผมยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลคิดแต่โทษตัวเองที่ไม่น่าส่งน้องไปตาย แต่พอมีสติก็ได้โทรไปถามทางคาร์โก้สายการบิน ทางเจ้าหน้าที่หัวหน้าคาร์โก้ชื่อ อมร ก็ได้บอกว่าไม่ทราบสาเหตุจะตรวจกล้องวงจรปิดให้

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเสียใจหนักกว่าเดิมคือ ทางเจ้าหน้าคาร์โก้ที่ตรังได้แจ้งกับพ่อแม่ใหม่ที่มารับน้องพอใจว่า น้องพอใจตายก่อนขึ้นเครื่องแล้วเพื่อปัดความรับผิดชอบและทำให้ผมเกิดความเสียหายเหมือนส่งน้องหมาที่ตายไปให้ โชคดีที่ผมอัพรูปในเฟสบุ๊กตั้งแต่ก่อนส่งและส่งแล้วให้พ่อแม่ใหม่ของน้องพอใจดูตลอด รวมถึงยังมีหลักฐานกล้องวงจรปิดที่สนามบินอีกด้วย พอตั้งสติได้สิ่งแรกที่ผมทำคือการโอนเงินค่านมทั้งหมดคืนให้กับพ่อแม่ใหม่น้องพอใจ จำนวนเงิน 16,000 บาท เพื่อแสดงความรับผิดชอบของผมและกล่าวขอโทษจากใจจริง ซึ่งทางพ่อแม่ใหม่น้องพอใจก็เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และยังแสดงความเป็นห่วงผมว่าแล้วทางสายการบินจะช่วยเหลือหรือรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้อย่างไรบ้าง ผมก็ได้แต่บอกว่ายังไม่รู้จริงๆ ว่าเค้าจะทำอย่างไร แต่ก็ได้แต่ภาวนาให้ทางสายการบินได้ช่วยเหลือหรือเยียวยาจิตใจเพื่อแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง

อีก 3 วัน เจ้าหน้าที่หัวหน้าคาร์โก้ที่ชื่อ อมร ก็ได้นัดผมไปดูกล้องวงจรปิดที่สนามบิน ซึ่งพอไปถึงผมก็ได้ตรวจดูกล้องวงจรปิดเวลาทั้งหมด และได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าน้องพอใจสุขภาพแข็งแรงร่าเริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับทราบเพราะเห็นจากกล้องวงจรปิด แต่ที่ผมตกใจคือน้องพอใจอยู่ในห้องแอร์ที่เตรียมไว้ไม่ถึง 15 นาที ที่เหลืออยู่ข้างนอกห้องที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเทและไม่มีแม้แต่พัดลม ซึ่งไม่ตรงกับที่พนักงานแจ้งผมไว้ตอนที่ส่งน้องพอใจว่าอยู่ห้องแอร์ตลอด ซึ่งพนักงานบอกว่าเป็นขั้นตอนของการส่ง แต่นี่คือสิ่งมีชีวิตไม่ใช่สิ่งของที่คุณจะเอาไปตั้งวางตรงไหนก็ได้โดยเฉพาะกับลูกสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้วูลลี่ ที่มีขนที่หนาและขี้ร้อนมากอยู่แล้ว และวันนั้นทางหัวหน้าคาร์โก้ก็ได้ให้ผมส่งเมล์เขียนร้องเรียนความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับเค้าโดยจะใช้เวลาประมาณ 14 วัน ถึงจะรู้ผล

โดยภายใน 14 วันที่ผ่านมา ผมได้แต่เก็บความเสียใจไว้คนเดียวและหวังว่าทางคาร์โก้สายการบินจะชดเชยหรือรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ไม่มากก็น้อย เพราะส่วนหนึ่งผมก็เป็นลูกค้าของสายการบินมาโดยตลอดและโปรโมทว่าเป็นสายการบินของคนไทย ผมได้แต่หวังว่าเค้าคงจะคิดถึงใจเค้าใจเราบ้างว่าแค่น้องหมาตายก็เสียใจมากอยู่แล้วยังต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกมากมายในการมาส่งอีกเพราะวันนั้นผมต้องขับรถจากเพชรบูรณ์เพื่อมาส่งน้องพอใจที่ดอนเมือง และนี่คือน้องหมาคอกแรกของผมที่ผมทำคลอดเองกับมือและเลี้ยงด้วยความรักทุกตัว ที่สำคัญนี่คือการส่งน้องหมาครั้งแรกของผมทางเครื่องบินอีกด้วยครับ และวันนี้ทางคาร์โก้สายการบินได้แจ้งมาทางเมล์ของผมว่า ” ทางสายการบินไม่ชดใช้และรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ” ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องที่เกิดขึ้นจริงนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องพอใจครับ

 

พอใจ 

ที่มา : เฟซบุ๊ก Itsares Khumdee

 

ทั้งนี้ ผู้โพสต์ยังได้ระบุถึงข้อสงสัยในเหตุการณ์สุนัขเสียชีวิตในครั้งนี้ คือ

1.เกิดอาการเพลียและอ่อนหล้าจากการที่ต้องอยู่ในห้องหลังคาร์โก้ที่อากาศไม่ถ่ายเท ไม่มีแอร์และพัดลม รวมถึงไปอยู่ลานตึกด้านนอกของสนามบินซึ่งมีความร้อนไปรอก่อนขึ้นเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

2.ตอนที่อยู่ใต้เครื่อง ได้เปิดปรับแรงกดอากาศและมีอากาศที่เพียงพอที่น้องหมาจะหายใจได้หรือไม่ เพราะสภาพการตายของน้องพอใจเหมือนเจอแรงกดอากาศทุรนทุรายจากการขาดอากาศหายใจ

 

Back to top button