Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

 

Tactical Move 

         

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย         

SET Index ปรับลง 1.61 จุด (-0.10%) ปิดภาคเช้าที่ 1,576.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16,948.43 ลบ.

Most Positive Impact: PTTEP (+0.40 จุด), BDMS (+0.31 จุด), INOX (+0.27 จุด)

Most Negative Impact: SCC (-0.73 จุด), KBANK (-0.61 จุด), CPALL (-0.46 จุด)

         

แนวโน้มตลาดบ่าย

เช้านี้ตลาดไทยเงียบเหงากว่าที่คาด โดยซึมลงมาสวนตลาดภูมิภาคที่ส่วนมากปิดบวก รวมถึงตลาดสหรัฐฯที่ทำสถิติปิดสูงเป็นประวัติการติดต่อกันถึง 7 วัน นอกจากนี้ ตลาดไทยยังมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางเพียง 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นปริมาณที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีและเฉลี่ยที่ 2.6 หมื่นล้านบาท หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/59 ซึ่งออกมาน่าผิดหวัง โดยขยายตัวเพียง 3% ชะลอลงจากที่ขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 3/59 และเทียบกับตลาดคาดว่าจะขยายตัว 3.2% ส่วนทางศูนย์วิจัยกสิกรคาดว่าจะขยาย 3.3% ขณะที่ทั้งปี 59 ขยายตัวได้ในอัตรา 3.2% เติบโตดีขึ้นจากในปี 58 ที่ขยายตัวได้ 2.9%

ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควรและตลาดขายปัจจัยบวกใหม่ๆ อาจทำให้ตลาดไม่มีแรงหนุนให้ทะลุ 1590 ขึ้นไปได้ อย่างไรก็ตาม อาจยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาเก็งผลประกอบการงวด 4Q59 ก่อนจะมีการประกาศงบอย่างชุกชุมในช่วงวันที่ 24 – 28 ก.พ. นี้ โดยจะมีการรายงานงบกว่า 400 บริษัท ขนาด Market Cap รวมถึง 45% โดยส่วนมากจะเป็นหุ้น Mid-Small-Cap ที่ยังไม่ได้ประกาศงบ ทั้งนี้ จึงควรเริ่มระวังการ Sell on Fact หลังการรายงานงบเสร็จสิ้น เลือก SAWAD MEGA CHG TKN เป็นตัวเด่นที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาโดดเด่น

ในส่วนของดัชนีดอลล่าร์สหรัฐฯยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 100 ดังนั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน  มี.ค. เป็นช่วงที่จะมีการประชุมธนาคารกลางต่างๆ รวมถึง ECB (9 มี.ค.60) Fed (15 มี.ค.60) BoJ (16 มี.ค.60) คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณการเตรียมใช้นโยบายการเงินที่เข้ามงวดมากขึ้นในอนาคตนอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่อง Brexit ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะทำให้ดอลล่าร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าขึ้นได้ จึงต้องระวังการเข้าเก็งกำไรในดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินบาทมีความผันผวน และจะส่งผลให้มี Fund flow ไหลออกจากตลาดไทยได้

กลยุทธ์การลงทุน: ตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาผลักดันตลาด แต่ระยะสั้นยังอาจได้แรงหนุนจากการเก็งกำไรผลประกอบการ มองกรอบการเคลื่อนไหวภาคบ่ายในกรอบ 1574-1585 ยังคงให้ถือกลุ่มหุ้นชุดเดิมคือ BBL KTB PTTEP หุ้นปันผลสูง KKP LH SPCG GLOW กลุ่มหุ้นเก็งงบ SAWAD MEGA CHG TKN และถือ BIG เพื่อ Let Profit Run 

หุ้นแนะนำ: SAWAD BBL KTB CHG KKP SPCG TKN

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น:- 

          

Alternative Trading: 

SET50 Futures: S50H17 ถือ สถานะ Long ที่ 988 จุด เล็งไปกำไรที่ 997 จุด