STPI รูด6% ต่ำสุดในรอบเกือบ5ปี วิตกงบฯQ2ทรุด หลังเจอค่าปรับกว่า296ลบ.

STPI รูด6% ต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี วิตกงบฯ Q2 ทรุด! หลังเจอค่าปรับกว่า 296 ลบ. ล่าสุดปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 6.65 บาท ลบ 0.45 บาท หรือ 6.34% สูงสุดที่ 7.15 บาท ต่ำสุดที่ 6.55 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 148.63 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI ปิดตลาดภาคเช้าราคาอยู่ที่ 6.65 บาท ลบ 0.45 บาท หรือ 6.34% สูงสุดที่ 7.15 บาท ต่ำสุดที่ 6.55 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 148.63 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.00%

โดยราคาหุ้น STPI ปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 8.15 บาท เมื่อวันที่ 19 ก.ค.60 สำหรับสาเหตุที่คาดว่าส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงคาดว่ามาจากการที่บริษัทต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 296.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ค.60 ในคดีการยกเลิกสัญญาก่อสร้างเมื่อปี 2548 ซึ่งจะถูกบันทึกในผลประกอบการไตรมาส 2/60 ส่งผลให้คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวจะออกมาไม่ดี

ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำ “Fully Valued” STPI ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท/หุ้น โดยมองว่าบริษัทต้องบันทึกจ่ายค่าปรับเพิ่ม 113 ล้านบาทในไตรมาส 2/60  เมื่อ 23 พ.ค.60 ศาลฎีกาพิพากษาให้บริษัทจ่ายค่าปรับ 296.10 ล้านบาท ในคดีการยกเลิกสัญญาก่อสร้างในอดีต (เมื่อปี 2548 บริษัทได้คืนงานแล้วคู่สัญญาฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย) ซึ่งบริษัทได้ตั้งสำรองค่าเผื่อฯไว้แล้ว 180 ล้านบาท จะต้องบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 113 ล้านบาทในงวดไตรมาส 2/60

โดยประเด็นดังกล่าวเป็นข่าวลบกับ STPI ซึ่งค่าปรับที่ต้องจ่ายออกไป 296.10 ล้านบาท คิดเป็น 0.73 บาท/หุ้น แต่จะกระทบงบกำไรขาดทุนทางบัญชีเฉพาะส่วนที่ยังไม่ตั้งสำรองฯ คือ เท่ากับ 113 ล้านบาท  หรือคิดเป็น 0.28 บาท/หุ้น ขณะที่ผลประกอบการบริษัทก็อยู่ในช่วงที่ไม่ดีนัก เพราะยังไม่ได้รับงานใหม่ขนาดใหญ่เข้ามา โดยใน 1Q60 บริษัทมีรายได้รวมเพียง 472 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 231 ล้านบาท ส่วน 2Q60F ก็อาจจะยังมีผลประกอบการที่ไม่ดีนัก ผนวกกับต้องตั้งสำรองฯเพิ่มอีก 113 ล้านบาทจากกรณีดังกล่าวข้างต้น ทำให้บรรทัดสุดท้ายอาจจะขาดทุนสุทธิต่ออีก

ทั้งนี้แนะนำ Fully Valued – ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 9.20 บาท ทั้งนี้เรายังกังวลกับแนวโน้มธุรกิจและผลประกอบการที่เป็น Core business โดยหากไม่ได้งานใหม่ขนาดใหญ่เข้ามาในปีนี้ ก็จะทำให้ผลประกอบการปี 61 อ่อนแอต่อจากปีนี้อีก (ปี 60 คาดผลประกอบการไม่ดี เพราะแม้ว่าจะได้งานใหม่เข้ามาปีนี้ก็จะรับรู้รายได้น้อยมาก)

 

Back to top button