กลุ่มพลังงานหนุน SET ปิดบวก 10.27 จุด จับตานโยบาย “ช็อปช่วยชาติ” ดันดัชนีพุ่งต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,711.74 จุด เพิ่มขึ้น 10.27 จุด หรือ 0.60% มูลค่าซื้อขาย 5.34 หมื่นลบ.

10 หุ้นดันดัชนีวันนี้

ด้าน คุณสุเชษฐ์ สุขแท้  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่าปัจจัยที่ดัชนีปรับตัวขึ้นในวันนี้ ในวันนี้นักลงทุนคลายความกังวลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ของบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มทยอยออกมา ขณะที่ก่อนหน้านี้ดัชนีปรับตัวลดลง คาดว่ามาจากการที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 ของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ออกมาไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มภาวะตลาดฯในวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นจากนโยบายช็อปช่วยชาติ โดยมีหุ้นกลุ่มธุรกิจการบิน, พาณิชย์, โรงแรม เป็นกลุ่มดันดัชนี

โดยให้แนวรับ 1,690 จุด แนวต้าน 1,715 จุด

ขณะเดียวกัน นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน โดยช่วงเช้าดัชนีปรับลดลงไป 5-6 จุด แต่ในช่วงบ่ายกลับดีดตัวเป็นบวกได้แรง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเปราะบางของตลาด หลังจากก่อนหน้านี้เผชิญปัจจัยลบก็ทำให้มีแรงขายออกมามาก แต่เมื่อไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาก็ทำให้มีแรงซื้อกลับ ประกอบกับตลาดได้ปัจจัยจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ ทำให้หนุนการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน

รวมถึงความคาดหวังจากมาตรการช็อปช่วยชาติที่คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ ตลอดจนแรงซื้อของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี่ยงชีพ (RMF) ที่เข้ามาในช่วงปลายปี ก็เข้ามาช่วยหนุนภาพรวมการลงทุน

สำหรับปัจจัยจากต่างประเทศนั้น คงต้องติดตามการเยือนประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากที่ได้เดินทางมาเยือนญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อวานนี้ และจะเดินทางต่อไปยังเกาหลีใต้ในวันพรุ่งนี้

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 ของบรัษัทจดทะเบียนในช่วงสัปดาห์นี้ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 8 พ.ย. ซึ่งในเบื้องต้นตลาดคาดการณ์ว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับเดิมต่อไป

พร้อมทั้งให้แนวต้านระดับ 1,710-1,720 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,700 จุด และ 1,690 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่

PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย 2,751.47 ล้านบาท ปิดที่ 91.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท

AOT  มูลค่าการซื้อขาย 2,448.60 ล้านบาท ปิดที่ 58 บาท ลดลง 0.50 บาท

ADVANC  มูลค่าการซื้อขาย 2,048.51 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

PTT  มูลค่าการซื้อขาย 1,793.75 ล้านบาท ปิดที่ 422 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

PTTGC  มูลค่าการซื้อขาย 1,324.76 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท ลดลง 1.25 บาท

 

ตลาดหุ้นเอเชีย