เปิดโผ 30 หุ้นพื้นฐานแน่น “พี/อี” ต่ำสิบ “ยีลด์” ทะลักเกิน 5%

เปิดโผ 30 หุ้นพื้นฐานแน่น "พี/อี" ต่ำสิบ "ยีลด์" ทะลักเกิน 5%


ภาวะดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังอยู่ในช่วงผันผวน โดยนับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. ซึ่งดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,672.61 จุด ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุด (26 ธ.ค.61) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,556.93 จุด คิดเป็นการปรับตัวลดลง 115.68 จุด นับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจและรวบรวมบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงเกิน 5% ขณะที่มีอัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ต่ำกว่า 10 เท่า และเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องมานำเสนอ ซึ่งเครื่องมือ P/E Ratio เป็นตัวแปรที่บ่งบอกให้รู้ว่าหุ้นจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อ หรือเสี่ยงที่จะปรับตัวลดลง

ขณะที่หุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง และค่า P/E ต่ำ ถือเป็นหุ้นปลอดภัยไม่แกว่งตัวผันผวน โดยส่วนใหญ่หุ้นเหล่านี้จะสามารถทนต่อแรงเสียดทานของตลาดฯ ได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มอื่น

สำหรับหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ทั้งใน SET และ mai มีทั้งหมด 30 บจ. ดังนี้

(คลิกที่ตารางเพื่อขยายขนาด)

โดยพบว่าหุ้นที่มีอัตราส่วน P/E ต่ำที่สุด และมีอัตราการจ่ายปันผลสูง 5 อันดับแรก AP – บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP มีอัตราส่วน P/E อยู่ที่ 4.35 เท่า อัตราการจ่ายปันผล 5.93% , บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH มีอัตราส่วน P/E อยู่ที่ 4.36 เท่า อัตราการจ่ายปันผล 6.32%

ขณะที่ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO มีอัตราส่วน P/E อยู่ที่ 4.61 เท่า อัตราการจ่ายปันผล 9.52% , บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC มีอัตราส่วน P/E อยู่ที่ 4.78 เท่า อัตราการจ่ายปันผล 11.90% และบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีอัตราส่วน P/E อยู่ที่ 4.79 เท่า อัตราการจ่ายปันผล 5.90%

ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) คือ อัตราเปรียบเทียบเงินปันผลจ่ายต่อหุ้นสามัญเทียบกับราคาตลาดของหุ้นสามัญ เพื่อหาผลตอบแทนว่าหากลงทุนซื้อหุ้น ณ ระดับราคาตลาดปัจจุบันจะมีโอกาสได้รับเงินปันผลคิดเป็นอัตราร้อยละเท่าไรของราคาหุ้น ดังนั้น หุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงอย่างหนักจะส่งผลให้ Dividend Yield ปรับตัวขึ้นสูงตาม

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button