บอร์ด EP ไฟเขียวขายหุ้นบ.ย่อย ส่งไม้ต่อ BCPG ลุยโซลาร์ฟาร์ม 20MW

บ.ย่อย EP ขายหุ้นโรงไฟฟ้า ส่งไม้ต่อ BCPG ลุยโซลาร์ฟาร์ม 20MW


บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 31 ก.ค. อนุมัติให้บริษัท อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 75% ขายหุ้นในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในไทย มีกำลังการผลิตรวม 20 เมกะวัตต์ (MW) ให้บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG มูลค่า 871 ล้านบาท

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวทาง ETP จะขายหุ้น 99.99% ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท อาร์พีวี พลังงาน จำกัด (RPV) ที่ตนถืออยู่ รวมถึงดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยขายหุ้น RPV ของตน รวมทั้งสิ้น 100% ให้แก่ BCPG โดยมีบริษัทเป็นผู้ค้ำประกัน สำหรับการโอนหุ้น RPV ที่ซื้อขายนั้น BCPG จะจัดตั้งบริษัท บีเอสอี เพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยใหม่ถือหุ้น 100% และบีเอสอีฯ จะชำระเงินค่าซื้อขายหุ้นและเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใน RPV เมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนทั้งหมดตามสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง ETP, BCPG และ EP ลงวันที่ 31 ก.ค.63 (สัญญาซื้อขายหุ้น) สำเร็จลงแล้วเพื่อเป็นผู้รับโอนหุ้น RPV ที่ซื้อขายทั้งหมด

อนึ่งปัจจุบัน RPV เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ มีขนาดกำลังผลิต 5 เมกะวัตต์ และเริ่มขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่ วันที่ 15 ต.ค.55 และถือหุ้น 99.99% ในบริษัท เจเคอาร์ พลังงาน จำกัด (JKR) และบริษัท อะควาติส เอ็นเนอร์จี จำกัด (AQU) โดย JKR เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ มีขนาดกำลังผลิต 5 เมกะวัตต์ และเริ่มขายไฟฟ้าให้แก่กฟภ. ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.55

ขณะที่ AQU เป็นโฮลดิ้งคอมพะนี ถือหุ้น 99.99% ในบริษัท ลพบุรี โซล่า จำกัด (LS) และบริษัท ปราจีน โซล่า จำกัด (PS) โดย LS และ PS เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ มีขนาดกำลังผลิตบริษัทละ 5 เมกะวัตต์ และเริ่มขายไฟฟ้าให้แก่กฟภ. ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.57 และ 30 ธ.ค.59 ตามลำดับ

สำหรับมูลค่าสินทรัพย์ที่จำหน่ายไปโดยประมาณอยู่ที่ 871 ล้านบาท แบ่งการชำระเงินเป็น 3 งวด ได้แก่ งวดแรก วงเงิน 601 ล้านบาท โดยจ่ายชำระในวันที่โอนหุ้นในบริษัท RPV ให้แก่บีเอสอีฯ เรียบร้อยแล้ว (Completion Date) ,งวดที่สอง วงเงิน 120 ล้านบาท โดยจ่ายชำระภายใน 30 วันหลังจากวันที่โอนหุ้นในบริษัท RPV ให้แก่บีเอสอีฯ เรียบร้อยแล้ว (Completion Date) หรือภายใน 30 วันหลังจากวันที่มีงบการเงินรวมของบริษัท สำหรับงวดระหว่างกาลสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.63 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีของบริษัท

และงวดสุดท้าย 150 ล้านบาท จ่ายชำระณ วันที่ 17 ต.ค.65 ในกรณีที่มีการต่อระยะเวลาของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ JKR และกฟภ. ไม่ได้ยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าว ด้วยเหตุเกิดจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวครบอายุสัญญา หรือ ณ วันที่ BCPG โอนหุ้น RPV ที่ซื้อขายดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอกใด ๆ ที่ไม่ใช่บริษัทย่อยของ BCPG (แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นก่อน)

ทั้งนี้ EP ระบุว่าบริษัทจะนำเงินที่ได้รับ ไปใช้เป็นเงินทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และการลงทุนของบริษัทในอนาคตต่อไป ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเงินสดรับเพิ่มขึ้น หรือมีเงินทุนเพียงพอเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และการลงทุนในอนาคต หรือชำระคืนเงินกู้ของบริษัท เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัท และจะส่งผลให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อไป

Back to top button