MEGA ปักธงรายได้ปีนี้โต 10% รับยอดขายสดใส-ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่ม

MEGA ปักธงรายได้ปีนี้โต 10% รับยอดขายสดใส-ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่ม มั่นใจกำไรปี 68 แตะ 2.4 พันลบ.


นางสาวจินตนา บุญวรภัทร เลขานุการบริษัท บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA นำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 7 มิ.ย. 2564 ระบุว่า บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 3,270 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 6.3% เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร อยู่ที่ 834 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2564 เพิ่มขึ้น 5.4% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิตามรายงาน อยู่ที่ 333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และกำไรสุทธิหลังปรับปรุง ซึ่งไม่รวมขาดทุนจากธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น และไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และรายได้หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว อยู่ที่ 368 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

ด้านนายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEGA กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่ากำไรในปีนี้จะเติบโต 6-10% ตามแผนงานที่วางไว้ เนื่องจากยอดขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในไตรมาส 1/2564 และในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2564 เนื่องจากบริษัทมีแผนเพิ่มยอดขายในสินค้าเดิม และลงทุนในผลิตภัณฑ์ยาหลายประเภทเพิ่มขึ้น ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย คาดว่าผู้บริโภคจะเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสินค้าในร้านยามากขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงยังคงตั้งเป้ามีกำไรสุทธิในปี 2568 แตะ 2,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ตลาดในประเทศคิดเป็น 30% และ ตลาดต่างประเทศ 70% โดยตลาดหลักของบริษัท ประกอบด้วย ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ตลาดแอฟริกาที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต เช่น ไนจีเรีย กาน่า เป็นต้น ตลาดอเมริกาใต้ เช่น เปรู โคลอมเบีย รวมถึงการขยายไปยังอุซเบกิสถานและยูเครนอีกด้วย

สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมาว่า บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจต่อไป เนื่องจากมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ยายังคงเป็นสินค้าที่จำเป็นในตลาดเมียนมา ที่ผ่านมาแม้จะมีสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศส่งผลให้เที่ยวบินและเที่ยวเรือลดลง แต่ทางบริษัทในเมียนมายังคงนำเข้าและกระจายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ตลาดในประเทศอินโดนีเซียที่บริษัทได้เข้าลงทุนใน PT Futamed Pharmaceuticals ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปัจจุบันเริ่มขึ้นทะเบียนผลิตยาไปบ้างแล้ว และคาดว่าภายใน 2-3 ปีจะเห็นใบอนุญาตผลิตยาเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี ในปีนี้บริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ราว 6-10 รายการเช่นเดียวกับที่ดำเนินการมาเป็นปกติทุกปี แต่อย่างไรก็ตามสินค้าที่ออกใหม่ช่วงปีแรกจะยังทำยอดขายได้ไม่มากนัก จึงจำเป็นต้องทำให้สินค้าติดตลาดและผู้บริโภคเชื่อมั่นก่อน โดยปกติจะเห็นการเติบโตใน 2-3 ปี

ส่วนผลิตภัณฑ์จากกัญชงนั้น ทางบริษัทเตรียมพร้อมยื่นใบขออนุญาตจำหน่ายสินค้า รวมไปถึงมีความพร้อมในด้านเทคโนโลยีและทีมงาน โดยวางแผนจะนำมาผลิตป็นยาและเครื่องดื่ม แต่อย่างไรก็ตามยังคงรอความชัดเจนจากกฎหมายภาครัฐก่อน

Back to top button