TEAMG เล่นไม่เลิก! 7 วันราคาพุ่ง 81% คาดหวังแผนซินเนอร์ยี่ SCC

TEAMG เล่นไม่เลิก! 7 วันราคาพุ่ง 81% มาที่ 4.20 บ. พร้อมเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดฯ คาดนลท.หวังแผนซินเนอร์ยี่ SCC หลัง “เน็กซเตอร์ เวนเจอร์ส” เข้าถือหุ้น 10%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG ล่าสุด ณ เวลา 10.33 น. อยู่ที่ 4.20 บาท บวก 0.62 บาท หรือ 17.32% สูงสุดที่ 4.38 บาท ต่ำสุดที่ 3.76 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.11 พันล้านบาท

โดยราคาหุ้น TEAMG ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 7 วันติด นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.32 บาท เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2564 คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 81% อีกทั้งยังทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2561 ราคา IPO ที่ระดับ 2.42 บาท

ทั้งนี้ นางสาวนวลแพร ภัทรมัย นักลงทุนสัมพันธ์ TEAMG เปิดเผยว่า การเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 9.90% ของบริษัท เน็กซเตอร์ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC เนื่องด้วยทั้ง 2 บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญในด้านแต่ละด้าน และสามารถเข้ามาเติมเต็มกันได้ โดยทาง SCC มีนวัตกรรมโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ขณะที่ TEAMG ก็มีความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมที่ปรึกษา และสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนาน ทำให้จะเข้ามาส่งเสริมซึ่งกันและกัน

สำหรับการเข้ามาร่วมกันในครั้งนี้ บริษัทมุ่งหวังการ Synergy ให้เกิดความความร่วมมือที่เกี่ยวกับนวัตกรรมโซลูชั่น การใช้เทคโนโลยีก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์กับ TEAMG และ SCC รวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทย โดยคาดว่าเบื้องต้นจะเห็นการร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม หรือเห็นโครงการที่ทำร่วมกันได้ในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าเป็นต้นไป

ทั้งนี้ TEAMG เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจในการให้บริการการปรึกษาด้านวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และการจัดการครบวงจร โดยมีความเชี่ยวชาญตลอดการก่อสร้างแบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มการวางฝัง ศึกษา ความเหมาะสมว่ามีความคุ้มทุนหรือไม่ และออกแบบโครงการ ตึก อาคาร สนามบิน และไปควบคุมการก่อสร้างโครงการนั้นๆ ให้ได้มาตรฐาน ซึ่งเรียกได้ว่ารวมอยู่ในทุกๆ ด้าน ฉะนั้น โซลูชั่นต่างๆ ของ SCC ก็จะมาร่วมกันทำโครงการในทุกสเต็ปของการก่อสร้าง

เราสามารถนำเอานวัตกรรมของเขามาใช้ในการทำโครงการได้ ซึ่งนวัตกรรมของเขาจะตอบโจทย์ที่ทำให้เราทำงานได้รวดเร็วขึ้น และใช้วัสดุก่อสร้างที่น้อยลง ทำให้เกิดของเสียที่น้อยลง ซึ่งตรงนี้ก็จะไปตอบโจทย์เทรนด์ของโลก ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” นางสาวนวลแพร กล่าว

Back to top button