NSL วอลุ่มแน่น-บวกแรง 7% รับเข้า FTSE รอบใหม่-ลุ้นผลงาน Q4 โตดี รับเปิดเมือง

NSL วอลุ่มแน่น-บวกแรง 7% รับเข้าดัชนี FTSE Micro Cap รอบใหม่-ลุ้นผลงาน Q4 โตดี รับเปิดเมือง แนะซื้อเป้า 23 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(22 พ.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL ล่าสุด ณ เวลา 15.06น. อยู่ที่ 20.10 บาท บวก 1.30 บาท หรือ 6.91% สูงสุดที่ 20.20 บาท ต่ำสุดที่ 18.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 146.41 ล้านบาท

ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า FTSE ประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่ในวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดจะมีผลการปรับน้ำหนักในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ สำหรับ FTSE All World Index (Large  และ Mid Cap)  ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออกใหม่รอบนี้  ขณะที่ FTSE All Cap หรือ Small Cap มีหุ้นเข้าใหม่เพียงบริษัทเดียว ได้แก่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ส่วนหุ้นที่ออกจากคำนวณดัชนีไม่มีในรอบนี้

ด้าน FTSE Micro Cap พบว่ามีหุ้นเข้าใหม่  7 บริษัท ได้แก่  บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMR, บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW, บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT,  ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แกรนด์ รอยัล ออคิด โฮสพีทาลิตี้ หรือ GROREIT, ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT, บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL, บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP  ส่วนหุ้นที่ออกจากคำนวณดัชนีรอบนี้ไม่มี

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด มหาชน ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ต.ค.64)ว่า NSL เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวเดือน ก.ย. คาดกำไรไตรมาส 4/2564 จะกลับมาเติบโต โดยมองผ่านจุดต่ำสุดในเดือน ส.ค. จึงเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวใน ก.ย. ทั้งโรงงานที่กลับมา Operate ใกล้เคียงระดับปกติอีกครั้ง และปัญหา Supply Chain คลี่คลายมากขึ้น

รวมถึงธุรกิจ Food Service ที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้นในเดือน ก.ย. และต่อเนื่องมาใน ต.ค. ตามการ Reopen ของร้านอาหารและร้านค้าปลีกมากขึ้น จึงคาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 4/2564 เบื้องต้นมองไว้ที่ระดับ 40-50 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนนำขนมแบรนด์ตัวเอง ปังไท” กระจายเข้า Modern Trade มากขึ้น และออกสินค้าใหม่กลุ่ม Trading น้ำปลาร้า ตราเชิญยิ้ม โดยบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าใหม่ รวมถึงเมนูใหม่อย่าง โจ๊ก ที่เป็นสินค้า OEM จ้างบริษัทอื่นผลิตให้

ดังนั้นจากแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2564 ที่สะดุด จึงได้ปรับลดกำไรสุทธิปี 2564 ลง 16.4% เป็น 189 ล้านบาท ยังเติบโต 25% เมื่อเทียบจากปีก่อน และยังคาดกำไรปี 2565 จะเติบโตมากขึ้นเป็น 43.7% อยู่ที่ 272 ล้านบาท คาดหวัง COVID-19 จะคลี่คลายได้เป็นลำดับ และด้วยสินค้าของบริษัทที่มีจุดเด่น ถือเป็นหนึ่งใน Signature ของร้าน 7-11 จึงคาดจะเติบโตตาม 7-11 ได้ต่อเนื่อง และหาก 7-11 มีการขยายสาขาในกัมพูชามากขึ้นในปีหน้า ซึ่งมองว่าจะช่วยหนุนการเติบโตให้กับ NSL ได้มากขึ้น โดยเห็นกระแสตอบรับที่ดีมากจาก 2 สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมี Upside จากการอยู่ระหว่างเจรจานำสินค้าของบริษัทขยายเข้าไปใน Lotus’s มากขึ้น ทั้งนี้เราเห็นควร Re-Rate PE ขึ้นเป็น 25 เท่า จากเดิม 21 เท่า โดยขยับให้เท่ากับ PE เฉลี่ยของกลุ่มอาหาร จึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2565 เป็น 23 บาท จากเดิม 19 บาท

Back to top button