3 หุ้นเรือวิ่งฉิว! รับดัชนี BDI ทะลุ 3,000 จุด นิวไฮรอบ 5 เดือน-“เซี่ยงไฮ้” คลายล็อกดาวน์

3 หุ้นเดินเรือวิ่งฉิว! รับ BDI พุ่งทะลุ 3,000 จุด นิวไฮรอบ 5 เดือน-“เซี่ยงไฮ้” เริ่มคลายล็อกดาวน์ TTA นำทีมบวก 5% โบรกแนะซื้ออัพเป้าใหม่ 15 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(20 พ.ค.2565) ราคาหุ้นกลุ่มเดินเรือปรับตัวขึ้นแรง นำโดยบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ณ เวลา 11:32 น. อยู่ที่ระดับ 10.50 บาท ปรับตัวขึ้น 0.50 บาท หรือ 5.00% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 269.98 ล้านบาท

ส่วนบริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL  ณ เวลา 11:35 น. อยู่ที่ระดับ 47.00 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 2.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 129.49 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้นบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ณ เวลา 11:36 น. อยู่ที่ระดับ 21.40 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 3.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 230.53 ล้านบาท

สำหรับรายงานดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ปิดทำการวันล่าสุดที่  3,289 จุด เพิ่มขึ้น 3.13% จากวานนี้(18 พ.ค.65) อยู่ที่ระดับ 3,189 จุด โดยดัชนีพุ่งแรงในรอบ 5 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 3,343 จุด เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ค.2565) ว่า เซี่ยงไฮ้เริ่มผ่อนคลายล็อกดาวน์ และอาจยุติมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ 1 มิ.ย.65 นี้ รองนายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้แถลงในวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า หากสามารถควบคุมความเสี่ยงไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นได้ อาจจะยุติมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้ เพื่อให้การผลิตและการดำเนินชีวิต ของประชาชนในเซี่ยงไฮ้กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง หลังจากมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มาเป็นเวลานานกว่า 6 สัปดาห์ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

ส่วนการที่เซี่ยงไฮ้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ด้วยการอนุญาต ให้ธุรกิจบางส่วนเปิดดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. นั้น ทางจีนจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน โดยจะยังคงควบคุมการเดินทางส่วนใหญ่ไปจนถึงวันที่ 21 พ.ค. เพื่อไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และจากนั้นจะดำเนินการผ่อนคลายอย่าง ค่อยเป็นค่อยไปนับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 พ.ค. ผู้ให้บริการรถไฟจองจีนจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนเที่ยวรถไฟทั้งขาเข้าและจกออกจากเซี่ยงไฮ้ และสายการบินต่าง ๆ จะ เพิ่มจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศ ส่วนการให้บริการรถประจำทางจะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 22 พ.ค. แต่ประชาชนจะต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนใช้บริการ นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้จะอนุญาตให้ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านทำผม เริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง หลังจากที่ธุรกิจเหล่านี้ถูกล็อกดาวน์เป็นเวลานานหลายสัปดาห์

โดย KTBST: มองเป็นบวกต่อข่าวดังกล่าว โดยจีนได้มีมาตรการล็อกดาวน์กรุง เซี่ยงไฮ้อย่างเข้มงวดซึ่งเป็นเมืองค้าขายหลักของจีน มานานกว่า 6 สัปดาห์ ดังนั้น หากจีนมีการคลายและยุติล็อกดาวน์เมื่อไหร่ คาดว่าจะมี pent up demand ของการจนส่งมาเป็นจำนวนมาก โดยนับตั้งแต่ต้นปี ค่าระวาง Shanghai Containerized Freight Index (SCFI) ปรับตัวลงมา -18% ทั้งจาก ปัจจัย seasonality ที่มีช่วงวันหยุดยาวอย่างตรุษจีน และยังมีมาตรการล็อก ดาวน์ของจีนในช่วงปลายไตรมาส

ดังนั้นคาดว่าค่าระวางจะเริ่มฟื้นตัวหลัง จีนคลายล็อกดาวน์ อีกทั้งจะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลจนส่งอีกครั้งช่วงปลายไตรมาส 2 ตลอดไปจนถึงไตรมาส 3 ที่ประเทศต่างๆ จะเริ่มมีการตุนสินค้าสำหรับเทศกาลสิ้นปี ดังนั้นจึงมุมมองว่าค่าระวางจะยืนสูงตลอดทั้งปี เราคงน้ำหนักการลงทุน กลุ่ม Shipping & Logistics เป็น “Overweight” โดย Top picks ของกลุ่มได้แก่ LEO, WICE และ TTA

ด้าน LEO (ซื้อ/เป้า 23.00 บาท) กำไรใน 1Q22E ทำ new high โดย LEO ได้รับ ผลกระทบค่อนข้างจํากัดจากการล็อกดาวน์ในจีน อย่างไรก็ตาม หากคลายล็ อกดาวน์ คาดว่าจะได้ประโยชน์จากค่าระวางที่จะปรับสูงขึ้น และปริมาณการ จนส่งที่จะสูงขึ้นเช่นกัน

ส่วน WICE (ซื้อ/เป้า 22.00 บาท) จะช่วยลดความกังวลในการขนส่งสินค้าในจีน (คาดว่า WICE จะมีรายได้จากการขนส่งในจีนราว 20%-30%) ซึ่งจะทำให้ ปริมาณการขนส่งและค่าใช้จ่ายในการขนส่งกลับมาดีขึ้น แนวโน้มราคาหุ้นจะ กลับมา outperform SET ได้

ขณะที่ TTA บริษัทรายงานกำไร สุทธิในไตรมาส 1/2565  ที่ 980 ล้านบาท inline กับที่คาด โดยรายได้อยู่ที่ 6.03 พันล้านบาท (โต 75% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, ลดลง 21% เทียบไตรมาสก่อนหน้า)  โดยการเติบโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากค่าระวาง TCE rate ของ TTA เฉลี่ยในไตรมาส 1/2565 ที่ระดับ USD24,987/วัน แต่ลดลง 16% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากปัจจัยฤดูกาล ด้านธุรกิจนอกยังไม่ค่อยดีนัก และเห็นการขาดทุนมากขึ้น ส่วนธุรกิจปุ๋ยเคมีลดลง เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากปัจจัยฤดูกาล สำหรับ blended GPM ในไตรมาส1/2565 ที่ 24.0% (เทียบไตรมาส 1/2564 = 15.6%,ไตรมาส 4/2564 = 27.0%)

โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 และ 2566 ขึ้น 23% และ 13% ที่ 4,03 พันล้านบาท  และ 2.75 พันล้านบาท ด้วย assumption TCE rate ปี 2565 ใหม่ที่ USD25,278/วัน (เดิม USD21,667/วัน) โดยมีมุมมองว่าค่าระวางปีจะอยู่ในระดับสูงตลอดปีทำให้เฉลี่ยทั้งปีมีโอกาส เติบโตขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้คาดว่าหากสถานการณ์โควิดในจีนคลี่คลายแล้วจีน เปิดเมืองอย่างเต็มที่น่าจะเห็น pent up demand ของการขนส่งที่จะหนุนให้ ค่าระวางปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องไปยังไตรมาส 3 ที่เป็นช่วง high season ราคาหุ้น outperform SET ราว 15% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 15 บาท  จากค่าระวางจะได้ประโยชน์จากการเริ่มเข้าสู่ high season ของการขนส่งเรือเทกองในไตรมาส 2-3 อีกทั้ง หากจีนสามารถควบคุมโควิดและกลับมาเปิดเมืองได้ ตามปกติ อาจส่งผลให้มี pent up demand และหนุนค่าระวางให้ปรับตัวขึ้นได้ ด้าน Valuation น่าสนใจ ปัจจุบันเทรดที่ PER 5.4x และ PBV ที่ 0.6x

Back to top button