SCM บวก 8% ลุ้น Q2 สดใส อานิสงส์เปิดปท. – ยอดขายฟื้น โบรกชูเป้า 8.80 บ.

SCM บวก 8% โบรกชี้ไตรมาส 2/65 โตต่อเนื่อง รับอานิสงส์เปิดปท.- ยอดขายฟื้นตัว ด้วยธุรกิจเดิมเติบโต พร้อมขยายธุรกิจใหม่เข้ามาหนุน ตั้งเป้ารายได้โตปีละ 20% โบรกชูเป้า 8.80 บ. แนะนำ “ซื้อ”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น ( 1 มิ.ย. 65) บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ณ เวลา 11.00 น. อยู่ที่ระดับ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 8.00% ทำจุดสูงสุดที่ 6.90 บาท ทำจุดต่ำสุดที่ 6.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 51 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (1 มิ.ย.65) โดยมีการประเมินต่อ SCM ว่าโอกาสยอดขายจะมีการฟื้นตัวหลังเปิดเมืองโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์การเกษตรเติบโตสูงขึ้น มาจากการลดความกังวลของโควิดทำให้มีการพบปะและจัดสัมมนาเพิ่มขึ้น รวมถึงสร้างโอกาสในการขายสินค้าและเพิ่มจำนวนสมาชิก

โดยตั้งแต่ปี 2564 ทาง SCM ได้ใช้ Big Data ในการวางแผนการขายทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเติบโต 22% อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท มาจากการออกผลิตภัณฑ์ธาตุรองเสริมสำหรับพืชช่วยให้ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์การเกษตรเพิ่มขึ้น 148% อยู่ที่ 279 ล้านบาท คิดเป็น 23% ของยอดขาย เทียบจากเดิมเติบโต 12% ในปี 2563  และมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2565 เนื่องจากช่วยทดแทนปุ๋ยที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นมากจากภาวะสงคราม และเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งหลักในธุรกิจ MLM ซึ่งไม่มีสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์การเกษตร (ยกเว้น Amway)

ทั้งนี้ SCM ตั้งเป้ารายได้เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20% โดยได้เริ่มรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 ให้กับลูกค้า SME ที่ขายสินค้าอาหารเสริมทำงานออนไลน์ซึ่งมีการขยายตัวต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มรายได้ และ Utilize โรงงานของบริษัท ช่วยทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิต รวมทั้งเพิ่มอัตรากำไร เนื่องจากธุรกิจ OEM มี Net margin 30-35%

ขณะที่ SCM จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 1-2 ตัวต่อไตรมาส ซึ่งจะผลักดันยอดขายและอัตรากำไร ส่วนรายได้จากต่างประเทศซึ่งมาจากการมีตัวแทนจำหน่ายในกลุ่มประเทศ ASEAN คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากการคลายล็อกดาวน์ นอกจากนั้น SCM ยังมีโอกาส ในการปรับลดค่าคอมมิชชั่นลงจากที่ระดับเกือบ 50% เนื่องจากยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรรมที่ประมาณ 40% ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น

สำหรับ บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด เป็นบริษัทย่อยของ SCM จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ในไตรมาส 2/2565 ในการให้สินเชื่อประเภทเช่าซื้อ จำนำ ทะเบียนรถ และจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยในระยะแรกมีลูกค้าเป้าหมายคือสมาชิกนักธุรกิจเครือข่ายของ SCM โดยใช้พื้นที่สาขาของบริษัท และระยะต่อไปจะขยายไปสู่บุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการต่อยอดจากฐานสมาชิกปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 1.6 แสนราย โดยบริษัทเชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้สนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะยาว

นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัย ประเมินว่ากำไรมีแนวโน้มเติบโตจากการเปิดเมืองซึ่งทำให้มีโอกาสในการเพิ่มยอดขาย ผลิตภัณฑ์การเกษตรได้อานิสงส์จากราคาปุ๋ยสูง ทำให้บริษัทมีการออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น และมีรายได้เพิ่มเติมจากการรับจ้างผลิตสินค้าซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง

รวมทั้ง SCM กำลังเข้าสู่ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งต่อยอดจากการมีฐานสมาชิก 1.6 แสนราย ซึ่งอาจเป็นอัพไซด์ต่อผลประกอบการในระยะยาว ภายใต้สมมติฐานกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น 10-20% (EPS 0.40-0.44 เท่า) และประเมินมูลค่าหุ้นด้วย PE 20 เท่า ซึ่งดีสเคาน์จาก Amway Malaysia ที่เป็นผู้นำตลาด MLM ในมาเลเซียซึ่งมี PE 23 เท่า โดยประเมินราคาเป้าหมายของ SCM จะอยู่ที่ 8.00-8.80 บาท

Back to top button