SCGP ร่วง 6% สวนโบรกแนะซื้อเป้า 46 บ. ลุ้นครึ่งหลังฟื้นตัว-ย้ำรายได้ปีนี้ 1.6 แสนลบ.

SCGP ร่วง 6% สวนโบรกแนะซื้อเป้า 46 บาท ลุ้นครึ่งปีหลังดีมานด์ "แพ็กเกจจิ้ง" ฟื้นตัว ย้ำรายได้ปีนี้ 1.6 แสนล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้(6 ก.ย.66) ราคาหุ้นบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ณ เวลา 15:04 น. อยู่ที่ระดับ 38.00 บาท ลบ 2.50 บาท หรือ 6.17% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.24 พันล้านบาท

ด้านบล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน SCGP ครึ่งหลังปี 66 จะฟื้นตัวเด่นเทียบครึ่งแรกปี 66 โดยเฉพาะคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย และ ต้นทุนการผลิตลดลง รวมทั้งคาดปีหน้ากำไรกลับมาโต 21%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  ส่วน PBV 2.2 เท่า คิดเป็นราว -0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่คาดกำไรพ้นจุดต่ำสุดแล้วให้เป้าพื้นฐาน 46 บาท

ก่อนหน้านี้นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCGP เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 1.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้รวม 1.47 แสนล้านบาท โดยในงวดครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 66,337 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,705 ล้านบาท มาจากอุปสงค์ของบรรจุภัณฑ์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดประเทศในภูมิภาคอาเซียนและประเทศจีน โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาหารและเครื่องดื่ม การค้าระหว่างประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก เนื่องจากกำลังซื้อที่มีอย่างจำกัดของผู้บริโภคในประเทศคู่ค้า

ขณะที่สถานการณ์ต้นทุนของธุรกิจโดยรวมมีการปรับตัวดีขึ้น เช่น ค่าขนส่งที่ลดลงต่อเนื่องจากอุปทานของตู้และเรือบรรจุสินค้าที่เพิ่มขึ้น และราคาต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานปรับตัวลดลง เนื่องจากความต้องการที่ยังชะลอตัวในหลายภูมิภาค โดยคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ความต้องการบรรจุภัณฑ์มีแรงผลักดันในเชิงบวก ท่ามกลางการเตรียมพร้อมสำหรับการบริโภคและเทศกาลส่งท้ายปี ขณะเดียวกันคาดว่าการบริโภคภายในประเทศยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่มเป็นสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงต้นทุนพลังงานจะยังดีต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

สำหรับงบลงทุน (CAPEX) ในปีนี้ บริษัทตั้งไว้ที่ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกใช้ไปแล้วประมาณ 3.2 พันล้านบาท รวมถึงบริษัทเตรียมไว้สำหรับการควบรวมกิจการ (M&P) ประมาณ 9,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้สำหรับการขยายกิจการ

โดยล่าสุด SCGP ได้เข้าลงทุนใน Starprint Vietnam JSC (SPV) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ (Offset folding carton) ที่มีชื่อเสียงในเวียดนาม โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีมติเห็นชอบโครงการลงทุนเข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 70% โดยมีมูลค่ากิจการรวมไม่เกิน 1,050 พันล้านดอง หรือประมาณ 1,534 ล้านบาท ผ่านความร่วมมือกับ บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Starflex บริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะลงทุน 25% ใน SPV หลังจากธุรกรรมนี้เสร็จสิ้น ธุรกรรมข้างต้นอยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ปีนี้ นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดดีล M&P ในปีนี้เพิ่มได้อีกอย่างน้อย 1-2 โครงการ

สำหรับความคืบหน้าโครงการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่เวียดนาม ปัจจุบันดำเนินการไปตามขั้นตอน แต่คาดว่ามีโอกาสที่จะล่าช้าออกไป 6 เดือน จากแผนเดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 เป็นกลางปี 2569 ซึ่งหลังจากนั้นคาดว่าเศรษฐกิจ และดีมานด์ผลิตภัณฑ์จะกลับสู่ภาวะตึงตัวอีกครั้ง

Back to top button