ราคาทองคำปิดร่วง 11 ดอลล์ หลังตลาดหุ้นพุ่ง
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนได้พยายามสร้างเสถียรภาพสกุลเงินหยวน รวมทั้งตลาดหุ้นทั่วโลกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 11 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิด (12 ม.ค.) ที่ 1,085.20 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 11.5 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 13.751 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.91% ปิดที่ 838.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 469.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงเพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น โดยการแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้น ขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพสกุลเงินหยวน โดยเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์ ด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินหยวนในตลาดฮ่องกง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในตลาดฮ่องกงเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนมีเป้าหมายที่จะสกัดการเก็งกำไรจากเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนออนชอร์และออฟชอร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะทำให้สกุลเงินหยวนสามารถรวมเข้าในตะกร้าสกุลเงิน SDR ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
