CBG-OSP ร่วง! เซ่นปิดด่าน “ไทย-กัมพูชา” หวั่นฉุดรายได้ครึ่งปีหลังลด

CBG-OSP กอดคอร่วง โบรกชี้สถานการณ์ตึงเครียดไทย-กัมพูชาสร้างแรงกดดันต่อ CBG ต่อเนื่อง หลังการปิดด่านชายแดนทำรายได้จากตลาดกัมพูชาหดตัว และคาดกระทบยาวถึงครึ่งหลังปี 2568 ส่วน OSP กระทบเล็กน้อย หลังมีสัดส่วนรายได้แค่ 1-2%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ก.ค.68) ณ เวลา 10:36 น. ราคาหุ้น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG อยู่ที่ระดับ 55.25 บาท ลบ 2.25 บาท หรือ 3.91% สูงสุดที่ระดับ 56 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 54.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165.54 ล้านบาท

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP อยู่ที่ระดับ 17 บาท ลบ 0.40 บาท หรือ 2.30% สูงสุดที่ระดับ 17.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 16.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 149.37 ล้านบาท

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความตึงเครียดระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และการเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศ ส่งผลให้ความขัดแย้งชายแดนกลับมาเป็นประเด็นกดดันเชิงลบต่อตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะต่อบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากกัมพูชาประมาณ 13% ของรายได้รวม

ทั้งนี้แม้ CBG จะปรับกลยุทธ์ด้วยการส่งสินค้าไปยังกัมพูชาทางเรือแทนการขนส่งทางบกที่ถูกระงับ แต่ด้วยระยะเวลาขนส่งที่ยาวนานขึ้น ทำให้เริ่มมีผลกระทบต่อรายได้ส่งออกตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 โดยคาดว่ารายได้จากกัมพูชาจะลดลงทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (q-q) และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (y-y) ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่เริ่มมีการปิดด่านชายแดนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ฟินันเซียยังประเมินว่า หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อต่อเนื่อง อาจกดดันผลประกอบการของ CBG ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ต่อไป จนกว่าการดำเนินงานของโรงงานแห่งใหม่ในกัมพูชาจะสามารถเริ่มผลิตและดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนในเดือนธันวาคม 2568

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ OSP พบว่าได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากรายได้ของ OSP จากกัมพูชามีสัดส่วนเพียง 1–2% ของรายได้รวมทั้งหมด จึงมีความเสี่ยงต่ำมาก หากเกิดการยืดเยื้อของสถานการณ์ อาจมีผลทางจิตวิทยาต่อหุ้น แต่ไม่ส่งผลรุนแรงต่อผลประกอบการจริง

Back to top button