TTB บวก 1% รับข่าวปันผล 0.066 บาท ขึ้น XD 6 ต.ค.นี้ ชูยีลด์ 7%

TTB บวก 1% หลังบอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.066 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 6 ต.ค. นี้ พร้อมชู Dividend Yield สูงถึง 7% หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน ท่ามกลางแผนบริหารทุนระยะยาวต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วันนี้ (24 ก.ย.68) ราคาหุ้น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ณ เวลา 10:25 น. อยู่ที่ระดับ 1.88 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 1.08% สูงสุดที่ระดับ 1.88 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.86 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 167.52 ล้านบาท

บริษัท ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ จากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 โดยอัตราหุ้นละ 0.066 บาท กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 ตุลาคม 2568 และวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 7 ตุลาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 ตุลาคม 2568

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ และการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ส่งผลให้ทีทีบีมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีความพร้อมในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ พันธกิจสำคัญของทีทีบีในปี 2568 ยังคงเน้นย้ำ ปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้” ครอบคลุมลูกหนี้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้กลุ่มเปราะบางหรือลูกหนี้ที่มีประวัติดี ด้านพันธกิจสำหรับผู้ถือหุ้น ยังคงเดินหน้าตามแผน การบริหารส่วนทุน” หรือ Capital management เพื่อสร้างมูลค่าและเพิ่มผลตอบแทนโดยรวม (Total Return) ให้กับผู้ถือหุ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ภายใต้แผนการบริหารส่วนทุนดังกล่าว ทีทีบีประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.066 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 60% จากผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2568 รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 6.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายในการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงแม้ภาคธุรกิจและภาคธนาคารจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวก็ตาม

นอกจากนี้ การที่ธนาคารสามารถปรับเพิ่ม Dividend Payout Ratio ขึ้นจาก 30-35% มาอยู่ที่ 60% ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จจากกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจหลังการรวมกิจการ ด้านอัตราผลตอบแทนเงินปันผล หรือ Dividend Yield ก็เพิ่มขึ้นจาก 2-3% ในอดีตมาอยู่ที่ 6-7% ในปัจจุบันส่งผลให้ทีทีบีเป็นหนึ่งในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินจากปันผลสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของหุ้นกลุ่มธนาคาร

รวมถึงอีก 2 โครงการที่ดำเนินการได้ตามแผน Capital management ได้แก่ โครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี (2568-2570) วงเงินรวม 21,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุน ROE ในระยะยาวแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนในตลาดทุนที่มีต่อราคาหุ้นและมูลค่าของผู้ถือหุ้นได้อีกด้วย และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารเสร็จสิ้นการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TNS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นไปตามแผนการสร้างการเติบโตจากภายนอก (Inorganic growth) เพื่อเพิ่มศักยภาพและมูลค่าทางธุรกิจในระยะยาว

สำหรับช่วงที่เหลือของปี ทีทีบีจะยังคงเน้นย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยเราจะยังคงมุ่งมั่นต่อการดำเนินการตามแผน Capital management และตั้งเป้าหมายในการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงต่อไป รวมทั้งเน้นย้ำการบริหารจัดการโครงการซื้อหุ้นคืนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อหุ้นคืนจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น

Back to top button