TFD ศึกษาซื้อโรงไฟฟ้า 120 MW ใน จ.ระยอง เตรียมตั้ง REIT กว่า 2 พันลบ.

TFD ศึกษาซื้อโรงไฟฟ้า 120 MW ใน จ.ระยอง เตรียมตั้ง REIT กว่า 2 พันลบ.


นายกัมพล ติยะรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 120 เมกาวัตต์ ในจังหวัดระยอง เพื่อขยายธุรกิจพลังงานเพิ่มเติมหวังสร้างรายได้ประจำ (recurring income) เข้ามา แต่การศึกษาโครงการดังกล่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีความชัดเจนได้ในช่วงใด

พร้อมกันนั้น ยังเตรียมเข้าซื้ออาคารชุดพักอาศัย Sunshine Tower รัชดาภิเษกภายในปีนี้ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมถึงการปรับปรุงอาคารไม่เกิน 3.5 พันล้านบาท จากนั้นบริษัทจะนำอาคารดังกล่าวไปขายต่อให้กับนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติจากในเอเชียแสดงความสนใจที่จะเข้าซื้ออาคารดังกล่าวต่อจากบริษัทแล้ว

ส่วนโครงการแรก คือ The Harbour View Residence คลองเตยที่บริษัทได้ซื้ออาคารเก่ามาปรับปรุงนั้น ล่าสุดกลุ่มทุนไต้หวันได้ซื้อยกโครงการไปแล้ว มูลค่ารวม 1.66 พันล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนได้ในปี 60 และเมื่อหักต้นทุนจะสร้างกำไรให้กับบริษัทถึง 500 ล้านบาท ซึ่งผู้ซื้อจะทยอยจ่ายเงินในช่วงปี 59 และ 60

นายกัมพล กล่าวว่า แหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ซื้ออาคารเพิ่มเติมนั้นจะมาจากเงินกู้สถาบันการเงินและการออกหุ้นกู้ ซึ่งบริษัทจะมีแผนการออกหุ้นกู้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือน ก.ค.59 มูลค่า 900 ล้านบาท หลังจากขออนุมัติเพิ่มวงเงินจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เม.ย.อีก 1.5 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีวงเงินคงเหลือที่สามารถออกหุ้นกู้ได้ราว 400 ล้านบาท

นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนจะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่า 2 พันล้านบาท ซึ่งจะนำโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าในโครงการ Green Park เฟส 1 และโรงงานในอังกฤษ 2 แห่ง ขายเข้าเป็นสินทรัพย์ของกอง REIT ซึ่งจะบันทึกเข้ามาเป็นกำไรให้บริษัทในปีนี้ด้วย โดยการจัดตั้งกอง REIT จะเป็นความร่วมมือกับบลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (MFC) คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 59 โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT นั้นส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในการซื้อโรงงานในอังกฤษเพิ่มเติม

นายกัมพล ยังกล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 59 บริษัทคาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไร จากปี 58 ที่ขาดทุน 278.13 ล้านบาท พร้อมนำกำไรจากการดำเนินงานมาล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดที่มีอยู่ 268.33 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 5.5 พันล้านบาท หรือเติบโตราว 500% จากปี 58 ที่มีรายได้ 874.44 ล้านบาท มาจากธุรกิจขายที่ดิน ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตที่ดี

ส่วนของธุรกิจขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมนั้น จะเป็นภาคธุรกิจที่สร้างกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ เพราะปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี เฟส 2 บนเนื้อที่ 2.5 พันไร่ได้รับการอนุมัติเปลี่ยนจากพื้นที่สีเขียวให้เป็นพื้นที่สีม่วงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนขออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในช่วงไตรมาส 2/59 นี้

และหลังจากนั้นบริษัทจะเร่งพัฒนาเพื่อปล่อยขายทันที โดยคาดว่าจะขายที่ดินได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.59 ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนในและต่างประเทศเข้ามาเจรจาขอซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 200 ไร่ มูลค่า 1.8 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยไร่ละ 9 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถโอนได้ภายในปีนี้ได้ 100 ไร่ มูลค่า 900 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 100 ไร่ มูลค่า 900 ล้านบาทจะทยอยโอนในปี 60 ทั้งหมด

ส่วนธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่ดำเนินการโดย บริษัท โทเทิล อินดัสเตรียล เซอร์วิสเซส จำกัด (TISCOM) โดย TFD ถือหุ้น 100% นั้นปัจจุบัน TISCOM มีโครงการ Green Park เฟส 1 ตั้งอยู่ในนิคมฯทีเอฟดี เฟส 2 จำนวน 8 โรง ขนาดพื้นที่ 57,000 ตารางเมตร มูลค่า 2 พันล้าบาท ล่าสุดมีผู้เช่าแล้ว 1 โรง กว่า 3,600 ตารางเมตร และยังมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างเจรจาขอเช่าอีกเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีผู้เช่า 75-100% ในช่วงปลายไตรมาส 3/59

นอกจากนี้ โครงการ Green Park เฟส 2 (บางเสาธง) ขนาดพื้นที่ 22,000 ตารางเมตร จำนวน 22 โรง อยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.22 จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/59 โดยมั่นใจว่าจะมีผู้เช่าเต็ม 100% ช่วงไตรมาส 3/59 อีกทั้ง TISCOM ยังมีโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศอังกฤษอีก 2 แห่ง โดยแห่งแรกขนาด 15,000 ตารางเมตร และแห่งที่ 2 ขนาด 27,000 ตารางเมตร โดยทั้ง 2 แห่งมีผู้เช่าระยะยาวเต็ม 100% ให้อัตราผลตอบแทนสูงเฉลี่ย 9-9.8% ต่อปี

          

Back to top button