เผยโฉม 4 หุ้นสุดฟิน!รับวัตถุดิบอาหารสัตว์ลง

ขณะนี้ทางประเทศจีนกำลังเร่งระบายสต็อกข้าวโพดคุณภาพต่ำออกสู่ตลาด กดดันราคาข้าวโพดในประเทศจีนล่าสุดอยู่ที่ 1.43 พันหยวนต่อตัน อ่อนตัวลง 1.3% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา และอ่อนตัวลงถึง 25% นับตั้งแต่ต้นปี 2559 สอดคล้องกับราคาข้าวโพดในตลาดโลกที่ล่าสุดอยู่ที่ 3.31 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบุชเชล อ่อนตัวลง 0.7% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา และลดลงถึง 13.6% นับตั้งแต่ต้นปี 2559


–เส้นทางนักลงทุน–

 

ขณะนี้ทางประเทศจีนกำลังเร่งระบายสต็อกข้าวโพดคุณภาพต่ำออกสู่ตลาด กดดันราคาข้าวโพดในประเทศจีนล่าสุดอยู่ที่ 1.43 พันหยวนต่อตัน อ่อนตัวลง 1.3% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา และอ่อนตัวลงถึง 25% นับตั้งแต่ต้นปี 2559 สอดคล้องกับราคาข้าวโพดในตลาดโลกที่ล่าสุดอยู่ที่ 3.31 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบุชเชล อ่อนตัวลง 0.7% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา และลดลงถึง 13.6% นับตั้งแต่ต้นปี 2559

เหตุที่คาดไว้จากผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯในปี 2559-2560 จะออกสู่ตลาดราว 15.093 พันล้านบุชเชล สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.9% อีกทั้งจะยังเห็นราคากากถั่วเหลืองโลกอ่อนตัวลงเช่นกัน โดยล่าสุดอยู่ที่ 307.10 ดอลลาร์สสหรัฐต่อตัน อ่อนตัวลง 3.0% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากคาดการณ์กันว่าผลผลิตถั่วเหลืองของสหรัฐฯจะออกสู่ตลาดมากกว่าที่หลายฝ่ายคาด

ประเด็นราคาข้าวโพดอ่อนตัวลง รวมถึงราคากากถั่วเหลืองที่อ่อนตัวลงนั้น ส่งผลบวกต่อผู้ประกอบการฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์ เนื่องจากต้นทุนอาหารลดลงไปด้วยเช่นกัน  

ถือเป็น sentiment เชิงบวกต่อผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมากที่จะได้ต้นทุนอาหารที่ถูกลง แม้ว่าปัจจุบันผู้ประกอบการจะได้สต็อกวัตถุดิบอาหารสัตว์สำหรับปี 2559 ไว้แล้วก็ตาม แต่ประเมินว่าจะได้รับผลบวกดังกล่าวเต็มๆที่ในปี 2560

โดยบริษัทที่คาดได้รับอานิสงส์จากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลงนั้น คงเป็นบวกต่อ  CPF, TFG, GFPT และ BRสิ่งสำคัญไปกว่านั้นเมื่อวัตถุดิบอาหารสัตว์ลง ซึ่งสวนทางกับราคาไก่และหมูที่ทรงตัวสูง ยิ่งส่งผลบวกต่อผู้ประกอบการอีกด้วย

นอกจากนี้ เชื่อว่าทิศทางการลงทุนในหุ้นกลุ่มเกษตร-อาหารในช่วงครึ่งหลังของปี 59 ซึ่งจะเห็นปัจจัยขับเคลื่อนแรง เนื่องจากเข้าช่วงฤดูการส่งออก

อีกทั้ง ราคาผลิตภัณฑ์สัตว์บกที่ดีดตัวขึ้นมาในระดับสูง โดยเฉพาะไก่ที่ราคาดีดตัวสูงขึ้นในงวดไตรมาส 3/59 จนล่าสุดอยู่ที่ 45 บาทต่อก.ก. และราคาไก่เฉลี่ยตั้งแต่ต้นงวดไตรมาส 3/59 เท่ากับ 39.69 บาทต่อก.ก. เพิ่มขึ้น 6.8% จากไตรมาสก่อน และ 2.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ที่สำคัญ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส คาดกำไรไตรมาส 3/59 ของ CPF, TFG, GFPT และ BR จะเติบโตอย่างโดดเด่นมาก! พร้อมยกให้ CPF, TFG เป็น Top Picks ของกลุ่มเกษตร-อาหาร  โดย CPF ให้ราคาเป้าหมาย 40 บาท ขณะที่ GFG ให้ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท

ส่วนหนึ่งของผู้ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง!!

Back to top button