หุ้นจิ๋วโชว์พลังแจ๋ว

ในช่วงเดือนตุลาคม 2559 หุ้นขนาดเล็กได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะเป็นช่วงที่หุ้นหลัก หรือหุ้นขนาดใหญ่อ่อนตัวลง ทำให้เกิดการเข้าเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ภาพรวมของดัชนีตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 59 ดัชนีอยู่ที่ 551.74 จุด ขณะที่วันที่ 31 ต.ค. 59 ดัชนีอยู่ที่ 576.21 จุด ปรับขึ้น 24.77 จุด หรือขึ้นไป 4.44%


–เส้นทางนักลงทุน–

 

ในช่วงเดือนตุลาคม 2559 หุ้นขนาดเล็กได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะเป็นช่วงที่หุ้นหลัก หรือหุ้นขนาดใหญ่อ่อนตัวลง ทำให้เกิดการเข้าเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ภาพรวมของดัชนีตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 59 ดัชนีอยู่ที่ 551.74 จุด ขณะที่วันที่ 31 ต.ค. 59 ดัชนีอยู่ที่ 576.21 จุด ปรับขึ้น 24.77 จุด หรือขึ้นไป 4.44%

ทั้งนี้ มีหุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ ที่เคลื่อนไหวไปทิศทางเดียวกับดัชนีตลาด mai ซึ่งมีหลายตัวด้วยกัน แต่ที่มีการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงเกิน 20% ได้แก่ PPM, AUCT, ACAP, BGT, ITEL, SALEE และ UREKA

 

โดย บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 3 บาท ขณะวันที่ 31 ต.ค. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.06 บาท บวกไป 1.06 บาท หรือขึ้นไป 35.33% เป็นการเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคที่ปรับตัวขึ้น ประกอบกับอาจมีกลุ่มนักลงทุนใหญ่บางกลุ่มเข้ามาเก็บหุ้น

บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 7.95 บาท ขณะวันที่ 31 ต.ค. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 10.20 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 28.30% เป็นการเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคที่ปรับตัวขึ้น สะท้อนจากกลยุทธ์ธุรกิจด้านการประมูลรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทเพิ่มประมาณการ เพิ่มสมมติฐานรถบ้านเข้าประมูลตามข้อมูลใหม่ที่ได้รับ  

บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 9.10 บาท ขณะวันที่ 31 ต.ค. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 11.60 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 27.47% เป็นเพราะการเก็งกำไรรับอานิสงส์จากการขยายตัวของกลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าบริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อได้ทะลุเป้าหมายที่จะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการออกมาแข็งแกร่ง

บริษัท บีจีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BGT เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.26 บาท ขณะวันที่ 31 ต.ค. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.60 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 26.98% ซึ่งเป็นการเก็งกำไรที่คาดว่าบริษัทอาจได้รับผลประโยชน์จากตัวธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำเร็จรูปจะส่งผลให้หนุนผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4 และทั้งปีผลประกอบการยังคงแข็งแกร่ง

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITELเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 8.85 บาท ขณะวันที่ 31 ต.ค. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 11.20 บาท บวกไป 2.35 บาท หรือขึ้นไป 26.55% ซึ่งรับอานิสงส์จากบริษัทเข้าลงนามในสัญญาว่าจ้างสำรวจ ออกแบบ และติดตั้งอุปกรณ์พร้อมทั้งจัดหาวัสดุอุปกรณ์และงานบริหารคลังสินค้า (โครงการโรงเรียนประชารัฐ) สัญญาเลขที่ 3533-C-003 กับบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้จ้าง โดยสัญญามีมูลค่า 75.86 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 5 เดือน โดยบริษัทได้รับมอบหมายให้เข้าดำเนินการทั้งสิ้นจำนวน 1,281 โรงเรียน

บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.49 บาท ขณะวันที่ 31 ต.ค. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.85 บาท บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 24.16% อาจเป็นเพราะแรงขับเคลื่อนจากหลายฝ่ายมองว่ากำไรปี 59-60 เติบโตโดดเด่น เหตุรับรู้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นจากการลงทุนใน PST ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าพลาสติกประเภทของใช้ในครัวเรือน รวมถึงธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติกมีทิศทางดีขึ้นจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มมีสัญญาณบวก หลังยอดผลิตรถยนต์และยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศกลับมาเติบโต อีกทั้งธุรกิจพิมพ์ฉลากของ SLP มีแนวโน้มดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่

บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือUREKA เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.31 บาท ขณะวันที่ 31 ต.ค. 59 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.61 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 22.90% ซึ่งเป็นการเล่นเก็งกำไรจากการคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในส่วนของรายได้ ช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี จากออเดอร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ล่าสุดได้เซ็นสัญญาจ้างถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ ASRS (Automated Storage/Retrieval systems) กับบริษัท พีเอ็นไครส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครนอัตโนมัติและอุปกรณ์ลำเลียง สำหรับคลังสินค้าอัตโนมัติ ระบบ ASRS หวังต่อยอดธุรกิจหนุนรายได้เพิ่มในปี 60

 

อย่างไรก็ดี การเข้าซื้อหุ้นขนาดเล็กควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ รอบด้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการเข้าลงทุน อาทิ พิจารณาจากกราฟสัญญาณทางเทคนิค และปริมาณการซื้อขายต้องเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่นนั้น มักจะเกิดจากการเข้าซื้อเพื่อตอบรับข่าวทั้งข่าวลือ หรือข่าวที่มีข้อเท็จจริง แม้กระทั่งการเข้าเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิค เป็นต้น

ทั้งนี้ การเข้าไปลงทุนหุ้นขนาดเล็ก ควรพิจารณาการเข้าลงทุนเป็นรายบริษัท โดยเลือกที่กราฟสัญญาณทางเทคนิคดี และมีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น

Back to top button