เขย่าจนกลัว!โมนิก้าและทีมงาน

*ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” รู้สึกตงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งเป็นผลมาจากหุ้นหลายตัวออกอาการขาแข้งสั่นก่อนเวลาอันควร ทำให้การเดินหน้าขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมเป็นเรื่องยากในทันที เพราะผู้เล่นทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องดันหุ้นแบบสุดลิ่มทิ่มประตู จึงมีการเทขายหุ้นเพื่อเอากำไรมานอนกอดกันเป็นทิวแถวไงล่ะค่ะ


*ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” รู้สึกตงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งเป็นผลมาจากหุ้นหลายตัวออกอาการขาแข้งสั่นก่อนเวลาอันควร ทำให้การเดินหน้าขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมเป็นเรื่องยากในทันที เพราะผู้เล่นทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องดันหุ้นแบบสุดลิ่มทิ่มประตู จึงมีการเทขายหุ้นเพื่อเอากำไรมานอนกอดกันเป็นทิวแถวไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่จำเป็นต้องพิจารณาประเด็นอื่นให้เสียเวลาเคาะขวา เพราะแค่อยากบอกให้ผู้เล่นเข้าใจถึงกระบวนการเขย่าหุ้นหนักๆ จะพบเห็นได้บ่อยขึ้น ซึ่งจะทำให้เหล่าผู้เล่นเกิดอาการจิตตกกันอย่างถ้วนหน้า “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนเริ่มทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้อีกสักครั้ง เพื่อจะได้เข้าใจเหตุผลที่ทำให้ดัชนีแกว่งตัวไปมาใต้ 1,500 จุดค่อนข้างนานนะจะบอกให้

*ถามว่า “โมนิก้า” ยังยืนยันเป้าหมายดังกล่าวเหมือนเดิมไหม? เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า ทุกอย่างยังเหมือนกับวันก่อนที่ได้เม้าท์ไว้ทุกประการ บวกกับของมันเห็นกันอย่างตำตาว่า กำไรไตรมาส 3 ออกมาตามคาด เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,490.11 จุด ลบไป 6.25 จุด ด้วยมูลค่า 3.37 หมื่นล้านบาท มันเป็นการเขย่าขวัญเพื่อทำให้พวกจิตอ่อนยอมคายของออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้เป็นประจำเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงไม่แปลกใจที่เหล่าผู้เล่นเกิดอาการหวาดผวาอย่างหนัก เพราะเดิมทีตลาดทำท่าเหมือนจะไปต่อแรงๆ พอเอาเข้าจริงกลับโดนถล่มจนไปไหนไม่เป็น “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ติดตานักเล่นมาจนถึงทุกวันนี้ พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาในทันทีว่า เอาไงดี? เดี๊ยนเลยตอบกลับไปเหมือนเดิมว่า “เล็กสั้น ขยันซอย” และในบางจังหวะอาจใช้วิธี follow buy ผสมไปด้วยก็ได้นะคะ

*เหมือนกับในรายของ IRPC หุ้นต่ำสิบพิมพ์นิยมที่เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง วานนี้ขยับออกจากถ้ำมาปิดที่ 4.80 จุด บวกไป 0.08 บาท ด้วยมูลค่า 730 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นวงรอบของหุ้นมากกว่าประเด็นอื่นๆ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นราคาหุ้นขยับอยู่ในกรอบ 4.60-5.20 บาทเป็นประจำอยู่แล้ว เดี๊ยนถึงไม่รู้สึกวอรี่อะไรทั้งสิ้น หลังผู้คนพากันเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้เป็นจำนวนมากนะซี

*เช่นเดียวกับในรายของ WHA ภายใต้การบริหารจัดการของดอกไม้เหล็ก “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดในการเล่นตามน้ำ หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.04 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 520 ล้านบาทนั้น บรรดาเซียนหุ้นเขารู้กันอยู่แล้วว่า ราคาต่ำกว่า 3 บาทต้องซื้อไว้เพื่อลุ้นเด้ง เพราะกรอบการวิ่งของหุ้นอยู่ในระดับ 2.90-3.40  บาท จึงขึ้นอยู่กับผู้เล่นมองจังหวะนี้เป็น “โอกาส” หรือ “อุปสรรค” พะยะค่ะ

*ส่วนหุ้นนอกกระแสที่น่าจับตามองอีกหนึ่งตัวก็คือ ALLA แรงซื้อไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนดันหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.14 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 156 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำ หลังมีการประเมินตัวเลขรายได้ในปี 60 น่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ บวกกับหุ้นเพิ่งทะยานขึ้นแรงเป็นวันแรก จึงน่าจะมีไม้สองไม้สามตามมาติดๆ งานนี้ถ้าไม่แน่ใจ…รอดูอีกนิดก็ได้นะจ๊ะ

*สำหรับรายที่รอดูไม่ได้อีกต่อไป “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้นโรงพยาบาล EKH เพื่อให้แฟนคลับได้รับรู้ว่า ในปี 60 จะมีพัฒนาการที่สำคัญเกิดขึ้นมากมาย และเรื่องดังกล่าวก็ส่งผลโดยตรงกับแวลูของหุ้น จึงไม่แปลกใจที่พวกนกรู้บางกลุ่มกระโจนเข้าใส่กันอย่างเมามัน จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.10 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท ก็ของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ตัวเลข 2 หลักไม่ไกลเกินเอื้อมนะซี

*ส่วนในรายของ ALT อาจเงียบหายไปบ้างในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เป็นการกบดานเพื่อเร่งทำโปรเจ็กต์ไฟเบอร์ออฟติกให้เสร็จตามแผนงาน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหันมามองหุ้นตัวนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะราคาหุ้นยังย่ำฐานอยู่แถว 7.75 บาท จึงกลายเป็นโอกาสทองสำหรับคนที่ชอบมองยาวๆ…ถ้าคิดอะไรไม่ออก ลองนั่งหลับตา พร้อมกับจินตนาการตามว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่ม แต่มีรายรับไหลเข้ามาตลอดเวลา บอกได้ทันทีว่า ระเบิดระเบ้อแน่ๆ เจ้าค่ะ

*สำหรับรายที่วิ่งแบบไม่เหลียวหลังอย่างหุ้น ACAP ค่อนข้างเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากๆ สำหรับชมรมคนรักเด็กเก่ง จากหุ้นที่ทำอะไรก๊อกๆ แก๊กๆ เพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ล่าสุดกลายเป็นหุ้นที่ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ จนหุ้นไต่ระดับจากบริเวณ 8 บาท ล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 16.80 บาท บวกไป 2.10 บาท หรือขึ้นไป 14.30% ด้วยมูลค่า 480 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ผู้เล่นต้องไปวัดดวงกันเอาเอง หลังหุ้นปรับตัวขึ้นมาเป็นเท่าตัว (ยกเว้นกำไร Q4 ออกมาแจ่ม หุ้นก็จะไปต่ออีก)…ทราบแล้วเปลี่ยน!

*เหมือนกับในรายของ TSF แกว่งตัวไปมาวันเว้นวัน ล้วนมาจากข่าวเม้าท์เดิมๆ เกี่ยวกับการเทิร์นอะราวด์ มันเป็นเกมเสี่ยงที่ชาวหุ้นต้องเข้าใจก่อนลุย เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.28 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่า 210 ล้านบาท มันมาจากความเชื่อมากกว่าเรื่องจริง “โมนิก้า” ถึงมองรูปแบบการเข้าเล่นในเที่ยวนี้ต้องเน้นไปที่การ “เข้าเร็ว ออกเร็ว” นะจะบอกให้

*โดยตัวอย่างที่ทำให้นักเล่นพึงสังวรได้ดีสุดในเที่ยวนี้คือ DIMET ก่อนหน้านี้มีการปั่นกระแสกันอย่างเมามัน บวกกับมีการประโคมข่าวกันอย่างคึกคัก แถมได้ เสี่ย ก. เป็นคนออกโรงในหลายเรื่องด้วยกัน สุดท้ายกลับคว้าน้ำเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน “โมนิก้า” ถึงมองการจุดกระแสด้วยการดันหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.84 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่า 102 ล้านบาท…มันเป็นเกมลากไปเชือดอีกตามเคยกระมัง!

Back to top button