รีบาวด์

   *สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยามนี้มีเรื่องให้ติดตามตลอดเวลาก็จริง แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจเหมือนก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นมีลักษณะ “มาแล้วไป” ส่งผลให้อารมณ์นักเล่นอยู่ในห้วงของการปรับตัวให้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับเข้าใจบริบทที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องมีรูปแบบตายตัวนะจะบอกให้


เจาะกระดานหุ้น:โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยามนี้มีเรื่องให้ติดตามตลอดเวลาก็จริง แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจเหมือนก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นมีลักษณะ “มาแล้วไป” ส่งผลให้อารมณ์นักเล่นอยู่ในห้วงของการปรับตัวให้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับเข้าใจบริบทที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องมีรูปแบบตายตัวนะจะบอกให้

*เมื่อเหตุการณ์ต้องว่ากันวันต่อวัน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นดัชนีวิ่งขึ้นแรงๆ เพราะมันหมายถึงผู้เล่นยังมองตลาดหุ้นในมุมบวก ดัชนีถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,808.06 จุด บวกไป 19.43 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.85 หมื่นล้านบาทแบบชิวๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ทำให้รู้ว่า ดัชนียังคงพยายามเกาะระดับ 1,800 จุดอย่างเหนียวแน่น วันนี้ถึงต้องเล่นตามกระแสให้เป็นพะย่ะค่ะ

*โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดในเที่ยวนี้ คือ บทที่แรงซื้อจะไหลเข้ามาก็ไหลเข้ามาไม่ยั้ง พอถึงคิวขายก็มีแรงเทขายไม่ยั้งเช่นกัน ผลสุดท้ายเลยกลายเป็นการเคลื่อนตัวแบบ w-shape โดยทุกอย่างยังย่ำอยู่ที่เดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง “โมนิก้า” ถึงมองคนที่เข้าเล่นหุ้นแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ได้เปรียบเต็มประตูหน้าต่าง และน่าจะเป็นกลุ่มคนที่อ่านเกมหุ้นได้อย่างแตกฉานเจ้าค่ะ

*ตัวที่เข้าข่ายเรื่องดังกล่าวเต็มๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ BANPU มากกว่าหุ้นตัวอื่นๆ เพราะเห็นกันเต็มลูกตาว่า หุ้นเคลื่อนตัวไปมาในกรอบเดิม แถมยังมีเรื่องกวนใจตลอดเวลา แต่หุ้นยังพยายามยกตัวเป็นระยะ จนสุดท้ายเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 22.20 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 3.43 พันล้านบาท มันเป็นไฟต์บังคับที่เซียนต้องเล่นนะตัวเอง

*เหมือนกับในรายของ KTC ทะยานขึ้นมาปิดที่ 263 บาท บวกไป 13 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่า 1.13 พันล้านบาท มันก็เหมือนเรื่องที่ “โมนิก้า” เกริ่นให้ดูตั้งแต่เริ่มต้น และตอนนี้ยังเชื่อว่า หุ้นที่มี growth ค่อนข้างชัดเจน ราคาหุ้นก็ควรสูงกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งเป็นวิธีคิดง่ายๆ ไม่ต้องหาข้อมูลอะไรมากมาย และถ้าดูจากฐานบัตรที่เพิ่มขึ้น และเม็ดเงินการจับจ่ายที่สูงขึ้น หุ้นไม่น่าจะหยุดแค่นี้จริงไหม?

*เช่นเดียวกับในรายของ EA ในเมื่อทุกคนให้แวลูค่อนข้างเยอะ ก็เป็นจังหวะที่ต้องเล่นเมื่อหุ้นอ่อนตัวลงมา เพราะผลงานของบริษัทก็เห็นเด่นชัด รวมทั้งตัวเลขกำไรก็เติบโตขึ้นทุกปี “โมนิก้า” ถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 66.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเหมือนที่บางคนรู้สึก เพราะของมันดีอย่างไร วันนี้ก็น่าจะดีเหมือนเดิมจ้า!

*ส่วนในรายของ SGP หันมาเล่นเกมหุ้นควบคู่กับเกมธุรกิจ “โมนิก้า” ก็มองเป็นสีสันของตลาดหุ้นไทย และขอยอมรับในฝีไม้ลายมือคนที่อยู่ข้างหลัง ถึงทำให้ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นมายืนอยู่ที่ 29.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 7.30% ด้วยมูลค่า 760 ล้านบาท เดี๊ยนถึงอยากให้ขาลุยจับตามองหุ้นตัวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะน่าจะมีทีเด็ดอะไรออกมาอีกอย่างแน่นอนค่ะ

*ส่วนที่แรงแบบไม่เกรงใจใครทั้งสิ้นต้องยกให้ PDI ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงอีกครั้ง ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 27 บาท บวกไป 2.70 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่า 471 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการกลับมาครั้งสำคัญของหุ้นตัวนี้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อไม่นานมานี้ หุ้นยังย่ำต๊อกต๋อยที่บริเวณ 22 บาท มาวันนี้ราคาหุ้นขึ้นมาเหมือนจะวิ่งไปหายอดเดิม 32 บาท มันน่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ใช่ไหมจ๊ะ

*หากชอบเรื่องตื่นเต้นเร้าใจ “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับไปดู COM7 เป็นตัวเลือกแรกของการเล่นในจังหวะ “กล้าได้กล้าเสีย” หลังราคาหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 18.30 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 1,000 ล้านบาท แถมเป็นการปิดตรงแนวต้านแบบเหมาะเจาะพอดีแบบนี้ มันตีความได้สองอย่าง คือ “ทะลุแล้วไปต่อ” กับ “ทรุดตัวแล้วกลับฐาน” วันนี้ถึงต้องจับตาดูให้ดีนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ICN ทะยานขึ้นแรงแล้วถูกเทขาย ต่อจากนั้นทะยานขึ้นมาใหม่ แล้วถูกเทขายอีก วนเวียนไปมาที่บริเวณ 2.80-3 บาทแบบนี้มาระยะหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงมองเป็นจังหวะของการเล่นรอบของพวกนกรู้ บวกกับหุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.04 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 66 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่น่ารักน่าลุ้นดีเหลือเกินนะจะบอกให้

Back to top button