หุ้นบลูชิพครึ่งปีแรก 2563 ‘ราคาทรุด’

เพื่อให้เห็นภาพชัดมากขึ้น หากเจาะลึกรายตัว พบว่า หุ้นกลุ่ม SET50 มีทั้งหมด 50 ตัว ราคาหุ้นปรับตัวลง 45 ตัว ขณะที่หุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้น 5 ตัว


เส้นทางนักลงทุน

ครึ่งปีแรก 2563 ผ่านพ้นไปแล้ว พบว่าภาพรวมดัชนี SET Index ดูแย่!!! เพราะดัชนีปิดสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2563 อยู่ที่ 1,339.03 จุด เป็นการอ่อนตัวลงมาเมื่อวัดจากดัชนีปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2562 อยู่ที่ 1,579.84 จุด ทำให้รอบครึ่งปีแรกดัชนีปรับตัวลง 240.81 จุด หรือลงไป 15.24%

เหตุที่ดัชนี SET Index ปรับตัวลงลึกช่วงครึ่งปีแรกยังคงวนอยู่กับปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตทั่วโลกมีอัตราที่เพิ่มขึ้น

มิหนำซ้ำมีการทำลายระบบทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก เนื่องจากกลไกธุรกิจต่าง ๆ ขับเคลื่อนไม่ได้เพราะต้องหยุดการผลิตจากหลายประเทศที่มีการล็อกดาวน์

เหตุตามมาทำให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/2563 เกิดมีปัญหา ทำให้กำไรลดลง หรือบางบริษัทพลิกขาดทุนไปกันทั่วหน้า ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/2563 ที่โดนเต็มไตรมาสก็ทำให้หลายฝ่ายมองว่าผลการดำเนินงานออกมาแย่กว่าไตรมาส 1 อย่างแน่นนอน

ดังนั้นทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อลดความเสี่ยงออกมาในช่วงครึ่งปีแรก 2563 แม้กระทั่งหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่ม SET50 ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งก็ไม่เว้นต่างก็ปรับตัวลง และกระทบต่อภาพรวมของดัชนี SET50 ช่วงครึ่งปีแรก 2563 ปรับตัวลง 183.35 จุด หรือลงไป 17.15%

เพื่อให้เห็นภาพชัดมากขึ้น หากเจาะลึกรายตัว พบว่า หุ้นกลุ่ม SET50 มีทั้งหมด 50 ตัว ราคาหุ้นปรับตัวลง 45 ตัว ขณะที่หุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้น 5 ตัว

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวลง ได้แก่ MINT, SCB, KBANK, TMB, KTB, TOP, AWC, TCAP, BBL, TISCO, IRPC, PTTEP, DTAC, TRUE, SAWAD, EGCO, KTC, LH, CPN, CRC, VGI, BH, IVL, PTTGC, AOT, MTC, WHA, BTS, GPSC, PTT, BDMS, ADVANC, BEM, EA, RATCH, TOA, CPALL, OSP, SCC, BJC, BPP, TU, TTW, HMPRO และ INTUCH

แม้ว่าส่วนใหญ่ราคาหุ้นของกลุ่ม SET50 ปรับตัวลงในช่วงครึ่งปีแรก แต่ก็ยังมีหุ้นที่แข็งกว่าตลาดฯ เพราะราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้นั่นเอง ได้แก่ CBG, CPF, GULF, GLOBAL และ BGRIM

Back to top button