พาราสาวะถี

จากนี้ไปอีกอย่างน้อยสองสัปดาห์ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อยังลดลงก็ถือเป็นแนวโน้มที่ดี และช่วยยืนยันได้ว่ามาตรการผ่านคลายที่ดำเนินการกันมานั้นถูกทาง


สถานการณ์โควิด-19 ในแง่ของตัวเลขผู้ติดเชื้อพบว่าอยู่ในจำนวนที่ลดลงต่อเนื่องแต่จะนิ่งหรือไม่ ยังต้องรอดูกันต่อไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะตัวเลขที่ปรากฏในวันนี้หากยึดตามที่ศบค.ชี้แจงคือมาตรการและความร่วมมือของประชาชนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นสองสัปดาห์ หมายความว่า จากนี้ไปอีกอย่างน้อยสองสัปดาห์ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อยังลดลงอีกก็ถือเป็นแนวโน้มที่ดี และช่วยยืนยันได้ว่ามาตรการผ่านคลายที่ดำเนินการกันมานั้นถูกทาง

ดูเหมือนว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะมั่นใจแนวทางและทิศทางที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ล่าสุด นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ได้แถลงข่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พบว่าส่วนใหญ่ต้องการให้มีการเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนมากที่สุด แม้จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่เป็นส่วนใหญ่นั้นจะไม่ถึงร้อยละ 30 ก็ตาม ตามมาด้วยการแถลงมาตรการแซนด์บ็อกซ์ในโรงเรียน ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ

โดยได้นำร่องในส่วนของโรงเรียนประจำที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบไฮบริดจ์คือ การเรียนออนไซต์ร่วมกับออนไลน์ ผ่านมาตรการแซนด์บ็อกซ์ เซฟตี้โซนอินสคูล ซึ่งปรากฎผลการดำเนินการเป็นไปอย่างดี แม้ว่าจะพบผู้ติดเชื้อแต่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยของโรงเรียน แต่เป็นการสัมผัสผู้ติดเชื้อนอกโรงเรียน จึงเป็นที่มีของการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกำหนดแนวทางจัดให้มีมาตรการแซนด์บ็อกซ์ เซฟตี้โซนอินสคูล ในโรงเรียนไป-กลับ

คำถามที่จะตามมาก็คือ แม้จะมีมาตรการรัดกุมอย่างไร แต่ผู้ปกครองจะมั่นใจและกล้าที่จะให้ลูก หลานของตัวเองไปโรงเรียนหรือไม่ เพราะการยืนยันด้วยตัวเลขการฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลาการทางการศึกษาถึงร้อยละ 85 จึงจะเปิดเรียนได้ และกำลังจะมีการเร่งฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป แล้วเด็กที่อายุต่ำกว่านั้นเมื่อต้องไปโรงเรียนจะปลอดเชื้ออย่างนั้นหรือ ดูจากสิ่งที่อธิบดีกรมอนามัยแจกแจงมาแล้ว ยังเชื่อว่าสำหรับพื้นที่สีแดงเข้มคงยากที่สามารถเปิดเรียนในเทอมสองนี้ได้

ปัญหาอยู่ที่ความเชื่อมั่นของผู้ปกครอง และตัวเลขของผู้ติดเชื้อ แม้โดยภาพรวมดีขึ้นแต่วันก่อน นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.เพิ่งระบุยังมีจังหวัดที่น่าเป็นห่วงเรื่องผู้ป่วยหนักคือนนทบุรีและปทุมธานี ตีความได้ว่ายังวางใจไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าจากนี้ไปอย่างน้อย 2 เดือนตัวเลขจะลดลงไปในทิศทางเดียวกันทุกจังหวัด จนเชื่อได้ว่าผลจากการฉีดวัคซีนและมาตรการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการมานั้นมีประสิทธิภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงจะสามารถเรียกความมั่นใจจากผู้ปกครองและนักเรียนได้

ต้องอย่าลืมอีกเช่นกันว่า การระบาดสองระลอกหลัง หรือจะเรียกว่าระบาดหนล่าสุดที่บานปลายมาจนถึงปัจจุบันนั้น ไม่ได้เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐขอความร่วมมือจากประชาชน แต่ทั้งหมดมาจากภาครัฐการ์ดตกเอง จนทำให้ดูเหมือนว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอยู่ในภาวะบุญมีแต่กรรมบัง จะเริ่มดำเนินการอะไรที่หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้กระเตื้อง ก็ต้องมาเจอเหตุไม่คาดหวังอยู่ร่ำไป หนนี้ก็เช่นเดียวกัน การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพื่อหวังจะเปิดการท่องเที่ยวไม่รู้จะเป็นหมันอีกหรือไม่

ส่วนมิติทางการเมือง ประเด็นความกินแหนงแคลงใจกับพี่ใหญ่ 3 ป. หลังสร้างภาพดีกันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็เดินหน้าลุยงานทางการเมืองในแง่ของการพบปะประชาชน เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าไม่ต้องง้อให้ส.ส.มาคอยเป็นสะพานเชื่อมก็ได้ โดยงานแรกวันนี้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมน้ำท่วมที่จังหวัดชัยนาท พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อเตรียมรับน้ำเหนือไหลหลากและวางแผนเพื่อป้องกันน้ำท่วม

จากนั้นวันศุกร์ที่ 17 กันยายนตรวจราชการจังหวัดชลบุรีเพื่อตรวจติดตามการดำเนินโครงการ Factory Sandbox ของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) หลังจากเก็บตัวเงียบมานานพร้อมกับการถูกกระแนะกระแหนว่าเอาแต่ทำงานที่บ้าน หนีสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนัก พอเสร็จศึกซักฟอกผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ลุยงานทันที เพื่อยืนยันว่าการเมืองที่เล่นงานไม่ได้สร้างความหวั่นไหว แต่ยังถือเป็นการไปลงพื้นที่ที่ไม่ตอบโจทย์ปัญหาใหญ่ของประเทศอยู่ดี เสี่ยงต่อการที่จะถูกหยิบยกมาโจมตีได้

อย่างไรก็ตาม คงจะได้เห็นภาพเช่นนี้ไม่น่าจะบ่อยนัก หรืออย่างน้อยก็จนกว่าจะมีการจัดการปัญหาภายในพรรคสืบทอดอำนาจให้เรียบร้อย ในเมื่อเวลานี้คณะผู้บริหารพรรคยังเป็นชุดเดิมที่มีหอกข้างแคร่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ธรรมนัส พรหมเผ่า นั่งเป็นเลขาธิการอยู่ ก็ยังเหมือนมีหนามทิ่มแทงใจขวางหูขวางตา แต่ว่าการจะเข้าไปสะสางล้างบางเด็กในคาถาของพี่ใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย  ยิ่งหันไปมองคนใหม่ที่จะเข้ามาแทนถ้าไม่ใช่ตัวท่านผู้นำเอง มีแต่จะทำให้พรรคแตกมากกว่าโต

ยังมีกระแสวิจารณ์ภายในพรรคเกิดขึ้นตามมาอีก แม้จะมีการปลดธรรมนัส และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ สังเวยกระแสโหวตคว่ำตอนซักฟอก ต่อการที่ สันติ พร้อมพัฒน์ ผู้แปรพักตร์จากกลุ่ม 4 ช.และได้เข้าพบผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจหลังเสร็จศึกซักฟอกอย่างใกล้ชิด น่าจะเป็นการเลือกใช้คนผิดและไม่ได้คิดถึงหัวจิตหัวใจของส.ส.ส่วนใหญ่ภายในพรรคสืบทอดอำนาจ เพราะเป็นที่รู้กันสันติไม่ได้เป็นที่โปรดปรานหรือยอมรับจากคนภายในพรรค

ด้วยเหตุผลเล่นการเมืองแบบพลิกพลิ้วตลอดเวลา ไว้ใจไม่ได้ สิ่งสำคัญคือใจไม่ถึงพึ่งไม่ได้ คนเช่นนี้จึงจะหาพวกได้ยาก ดังนั้น หากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไว้วางใจให้เป็นคนโปรด และหวังจะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในพรรคแกนนำรัฐบาลคงต้องกลับไปทบทวนใหม่ ขณะที่กลุ่มก๊วนอื่น ๆ ภายในพรรคถ้าตัดในซีกของธรรมนัสทิ้งไปแล้ว ต้องยอมรับกันว่ามีแค่เสียงภายในแต่สายสัมพันธ์ภายนอกน้อยกว่าคนใจนักเลง สิ่งที่ท่านผู้นำอย่าทำเป็นลืมเป็นอันขาดก็คือ การได้สืบทอดอำนาจและเสียงค้ำยันเก้าอี้จากส.ส.พรรคเล็กพรรคน้อย รวมทั้งฝ่ายตรงข้ามที่ผ่านมานั้น ล้วนแต่เกิดจากกล้วยที่หยิบยื่นผ่านมือธรรมนัสแทบทั้งสิ้น

Back to top button