1,650 รอบที่สอง

การช้อนหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมาเยอะ ๆ หรือจะใช้ยุทธการดักซื้อหุ้นแล้วรอขายสั้น ๆ น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับพวก “มือไว” พะยะค่ะ


*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังมีอะไรหลายอย่างที่ไม่แน่นอน และยังมีปัญหาให้นักลงทุนต้องขบคิดตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงพยายามบอกกับทุกคนว่า “สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพ”  เพราะสิ่งที่เคยคิดเคยฝัน..ไม่เคยเป็นเหมือนฝันสักทีผนวกกับตัวแปรจากต่างประเทศก็มีอิทธิพลค่อนข้างมาก จึงสมควรแก่การช้อนหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมาเยอะ ๆ หรือจะใช้ยุทธการดักซื้อหุ้นแล้วรอขายสั้น ๆ น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับพวก “มือไว” พะยะค่ะ

*สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากให้พิจารณาก่อนเข้าซื้อหุ้นทุกครั้งก็คือ ค่า P/E และ ค่า P/BV เพราะตัวเลขดังกล่าวเหมือนเป็นสัญญาณบอกว่า หุ้นตัวไหนน่าซื้อลงทุน..หุ้นตัวไหนขึ้นมากเกินไป หรือใครไม่เชื่อเรื่องดังกล่าวที่เดี๊ยนเล่าให้ฟัง ก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล..เนื่องจากโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยกำลังเหวี่ยงมาหาหุ้นเติบโต และ หุ้นเทิร์นอะราวด์มากขึ้น!!..ตรงนี้อาจมีช่องให้นักลงทุนได้เล่นกันอย่างเมามันชั่วคราวนะจ๊ะ

*หากวิเคราะห์แบบไม่อ้อมค้อมอะไรทั้งสิ้น “โมนิก้า” ยังเชื่อว่า แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงบรรดาโบรกเกอร์ที่มีเข้ามานั้น ล้วนมาจากการเก็งกำไรในหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาดี ส่งผลให้ดัชนีประคองตัวปิดไปที่ระดับ1,643.92    จุด บวกไป 5.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.02 หมื่นล้านบาท และที่สำคัญคือหากเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ดัชนีก็ยังมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหม่ที่อยู่สูงกว่า 1,650 จุด (เที่ยวนี้เป็นการขึ้นมาทดสอบรอบที่สอง) และคาถาสำหรับคนเล่นหุ้นรอบนี้ก็คือ “ยืนได้..ก็มีลุ้น” นะจะบอกให้

*สำหรับหุ้นรายตัวที่ “โมนิก้า” อยากเจาะจงให้พวกเดย์เทรดลุยสุดซอยกันไปเลย ตามคงหนีไม่พ้นหุ้น CI เพราะมีวอลุ่มซื้อนำโด่งมาแต่ไก่โห่ ทั้งที่เนื้อหาสาระจริง ๆ ไม่มีอะไรจับต้องได้เลยสักอย่าง เดี๊ยนจึงอยากให้แฟนคลับที่ใจไม่ถึงอยู่เฉย ๆ เป็นการชั่วคราว เพราะการพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 1.59 บาท แต่หลังจากนั้นโรยตัวลงมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ 1.47 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 11.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 452 ล้านบาท มันคือการปั่นแรงแบบไม่เกรงใจใครน่ะซี

*ส่วนคนที่ชอบหุ้นในสไตล์ช้าแต่ชัวร์ และลงทุนได้อย่างสบายใจ น่าจะมองไปที่หุ้น PTTGC เป็นตัวเลือกแรก ๆ โดยเฉพาะในมุมของราคาหุ้นที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นเรื่อย “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า หุ้นมีโอกาสวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเก่าที่บริเวณ 70 บาทอีกครั้ง เพราะการยืนปิดที่ระดับ 66.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.33 พันล้านบาท มันเป็นการเทรดบน PE 7 เท่าไงล่ะคะ

*สำหรับดาวเด่นประเภทแทงกั๊กอย่าง UBE ก็ลงหลักปักฐานใหม่ที่บริเวณ 1.87 บาทเป็นที่เรียบร้อย และเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนาตาอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นมาแบบนี้ “โมนิก้า” ขอลงความเห็นว่า หุ้นมีโอกาสวิ่งกลับขึ้นไปหาราคาไอพีโอ 2.40 บาท หลังแรงขายเริ่มสะเด็ดน้ำ และการยืนปิดที่ 1.96 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 122 ล้านบาท ก็เป็นระดับที่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อเทียบกับการเติบโตในอนาคตนะจ๊ะ

*สุดลิ่มทิ่มประตูของแท้ต้องยกให้ SAMCO แต่เพียงผู้เดียว เพราะการทะยานขึ้นแรงแบบไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติเอาเสียเลย ผนวกกับการเล่นเที่ยวนี้เป็นเรื่องเก็งผลงานไตรมาส 3 เป็นหลัก “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเอาเองว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.08 บาท บวกไป 0.47 บาท หรือขึ้นไป 29.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 187 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 10 เท่า และมียอดเก่าบริเวณ 2.20 บาทเป็นเดิมพัน..น่าเสี่ยงดูสักตั้งไหมเอ่ย?

*ตบท้ายกันที่หุ้นซิ่ง FN กันสักหน่อยดีกว่า หลังค่าสัญญาณต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี “โมนิก้า” ถึงมองว่า ถ้าราคาหุ้นไม่ย้อนต่ำกว่าแนวรับ ก็ยังมีลุ้นพุ่งขึ้นไปหาแนวต้าน 2.60 บาทอีกรอบ และเผลอ ๆ อาจได้เห็นขึ้นไปแตะยอดที่เคยทำไว้บริเวณ 2.96 บาทอีกด้วย เดี๊ยนจึงอยากให้แฟนคลับประเมินสตอรี่ไตรมาส 4 คัมแบ็คเต็มตัว น่าเชื่อถือขนาดไหน? และการยืนปิดที่ระดับ 2.34 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 7.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70 ล้านบาท คุ้มที่จะเสี่ยงไหม?

Back to top button