ปีเสือกระบาก

ปี 2565 เริ่มด้วยคำพยากรณ์ไม่เป็นมงคล เช่นที่มองว่าอาจเกิดรัฐประหาร ก็คงเพราะขั้วอำนาจอนุรักษนิยมถูกโยกคลอนจนสถานะไม่มั่นคง


ปี 2565 เริ่มด้วยคำพยากรณ์ไม่เป็นมงคล แต่โหรก็คือนักวิเคราะห์สถานการณ์ ที่อ้างดาวนั้นทับดาวนี้ เพราะมีลูกศิษย์เป็นทหารเป็นนักการเมืองรู้ข่าววงใน เช่นที่มองว่าอาจเกิดรัฐประหาร ก็คงเพราะขั้วอำนาจอนุรักษนิยมถูกโยกคลอนจนสถานะไม่มั่นคง

มองกันง่าย ๆ ปี 65 ประยุทธ์อยู่หรือไป ถ้าอยู่ได้จนครบวาระ ก็ยิ่งพารัฐพันลึกล่มจม แต่ถ้าต้องไป เครือข่ายอำนาจก็รู้สึกไม่มั่นคง มีเลือกตั้งใหม่ใช่ว่าจะคุมสถานการณ์ได้

2 ปีกว่าของประยุทธ์ มาถึงจุดที่ถูกกระหนาบสองด้าน ด้านหนึ่งคือ “ฝ่ายไล่” ตั้งแต่โลกออนไลน์ ม็อบสามนิ้วบนถนน ไปจนพรรคฝ่ายค้าน

อีกด้านคือ “ฝ่ายเลื่อย” การแย่งชิงอำนาจจากภายใน ทั้งในพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งธรรมนัสและ “นายกบางโพล” ซึ่งความขัดแย้งยิ่งเด่นชัดในการเลือกตั้งซ่อมชุมพร สงขลา กระทั่ง ปชป.โวยว่าฝ่ายตรงข้ามส่งทหารลงพื้นที่

เลือกตั้ง กทม.ทั้งซ่อมหลักสี่และเลือกผู้ว่า ก็น่าสังเกตว่ามีการแตกตัวในขั้วเดียวกัน เขตหลักสี่มีทั้งพลังประชารัฐ พรรคกล้า พรรคไทยภักดี Vs พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล โดยประชาธิปัตย์ยังเงียบไม่รู้จะส่งไหม

ผู้ว่า กทม. มีทั้งชัชชาติ สุชัชวีร์ ก้าวไกล แล้วมีอดีต กปปส. สกลธี ภัททิยกุล ลาออกจาก พปชร. เข้าพบประยุทธ์

การแตกตัวของ กปปส. ปชป. เป็นภาพพิลึกชวนหัว เช่นที่หลักสี่ พรรคไทยภักดีให้คนสนิทถาวร เสนเนียม เป็น ผอ.เลือกตั้ง

ที่ชุมพร ครั้งแรกมีข่าวว่าชุมพล จุลใส จะยกครอบครัวย้ายไปพลังประชารัฐ มีข่าวฮั้วกัน แต่ไม่รู้ยังไง พอ “ทนายแดง” ผู้สมัครน้อยใจ พปชร.ก็เปลี่ยนใจ แถมได้ ศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีต ส.ส.6 สมัย ลาออกจาก ปชป.มาช่วยหาเสียง ทั้งที่ลูกชายเป็น ส.ส.ปชป.เขต 2

เทียบง่าย ๆ ในขณะที่ฝ่ายค้านแข่งกันระหว่างเพื่อไทย Vs ก้าวไกล “ฝ่ายขวา” ก็แตกตัวแข่งกันระหว่างพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ พรรคกล้า พรรคหมอวรงค์ ที่ล้วนท่องคาถา “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ปลุกเกลียดชัง “ม็อบ 3 กีบ” แต่ชูจุดขายต่างกัน เช่นหมอวรงค์ชู “โจรปล้นชาติจะกลับมา” พรรคกล้าชูความคิดจารีตแต่ฝีมือบริหารเศรษฐกิจทันสมัย

พรรคใหม่ของอุตตม-สนธิรัตน์ คงจะมากลาง ๆ เหมือนพรรคเศรษฐกิจใหม่ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยไม่สนใจใคร สนใจแต่อภิมหาโปรเจกต์ สั่งสมเสบียงหาเสียงระบบอุปถัมภ์ พร้อมร่วมทุกรัฐบาลถ้าได้สานต่อคอมเพล็กซ์หัวลำโพง

ภาพการแตกตัวนี้สะท้อนความเสื่อมของประยุทธ์ ซึ่งแม้อำนาจหนุนหลังใหญ่โตมโหฬาร ทหารตำรวจเป็นปึกแผ่น ตุลาการองค์กรอิสระอยู่ในแถว แต่ฐานความนิยมตกต่ำ ฐานการเมืองโหวงเหวง แม้มี 250 ส.ว.ก็ยากจะหาฐานสนับสนุนเป็นนายกฯ อีกครั้ง

พรรคพลังประชารัฐมาจาก ส.ส.บ้านใหญ่ ฝนตกไหลมารวมกัน ไม่มีความเป็นพรรค ไม่มีเอกภาพ ประยุทธ์ไม่สามารถคุมได้ ธรรมนัสตั้งตัวแข็งข้อไม่สะทกสะท้าน พรรคร่วมรัฐบาลก็ฝันหวาน ถ้าโอกาสอำนวย เสียบตู่ข้างหลังสักจึ้กสองจึ้ก ยังมีโอกาสเป็นนายกฯ

ในด้านความนิยม หลังล้มเหลวโควิด หลังวิกฤติเชื่อมั่น กวาดต้อนนักการเมืองมาเป็นฐานสืบทอดอำนาจ มาปู้ยี่ปู้ยำ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคกล้า พรรคไทยภักดี ก็มีความหวังจะแย่งชิงมวลชนอนุรักษนิยมใน กทม.และภาคใต้ ที่เคยเทให้ ประยุทธ์-พปชร. เมื่อครั้งเลือกตั้ง 62

ประยุทธ์ยังอยู่ต่อได้ แต่กลับมายาก ต่อให้พรรคฝ่ายค้านไม่ชนะ “แลนด์สไลด์” เพราะทั้งพรรคร่วมพรรคพลังประชารัฐพร้อมแข็งข้อ อำนาจต่อรองสูง

ดูแนวโน้มแล้วประยุทธ์คงอ้างเจ้าภาพเอเปก อยู่ครบปีครบวาระ แต่เสถียรภาพ ความเชื่อถือ ปัญหาปากท้อง ยิ่งย่ำแย่

เครือข่ายอำนาจไม่มีทางเลือก ยังไงก็ต้องค้ำประยุทธ์ ให้ยิ่งอยู่ยิ่งแย่ยิ่งพากันตกต่ำ ติดจั่น เป็นเสือกระบาก

รัฐประหารเป็นไปได้ยาก เพราะระบอบทุกวันนี้มีอำนาจเสมือนรัฐประหารอยู่แล้ว ถ้าล้มระบอบตัวเองก็เท่ากับอับจน

Back to top button