หุ้นต่ำสิบโชว์แสง

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีเสน่ห์มากกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ในละแวกเดียวกันก็คือ มีหุ้นหลายแบบให้เข้ามาลงทุนไม่ซ้ำหน้า


*สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีเสน่ห์มากกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ในละแวกเดียวกันก็คือ มีหุ้นหลายแบบให้เข้ามาลงทุนไม่ซ้ำหน้า ไม่ว่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ทยอยขายไอพีโอ หรือหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่ทยอยตบเท้าเข้าตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง มันคือสีสันที่ทำให้นักเล่นมีทางเลือกในการเล่นมากขึ้น “โมนิก้า” จึงเห็นพวกขาใหญ่วิ่งเข้า “ตัวนั้นที ตัวนี้ที” ชนิดหัวกะไดไม่แห้งกันเลยทีเดียวจ้า!

*สถานการณ์ตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” ไม่วอรี่กับการแกว่งตัวของดัชนีสักเท่าไหร่ เพราะดูจากไซเคิลที่เห็นกันมาทุกปี ไตรมาส 1 จะเป็นช่วงที่หุ้นไปได้เรื่อย ๆ ส่วนไตรมาส 2 จะถูกกดดันจากเรื่องปันผล ส่วนไตรมาส 3 จะเป็นช่วงชะลอตัวและแกว่งตัวไปด้านข้าง ส่วนไตรมาส 4 จะเป็นการเด้งขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม ส่งผลให้จังหวะนี้เหมาะต่อการเดย์เทรดแบบสุดซอยไปเลยไงล่ะคะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวเดี๋ยวลบเดี๋ยวบวก ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,657.62 จุด บวกไป 4.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.90 หมื่นล้านบาท จึงไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับสถานการณ์เศรษฐกิจ และการติดเชื้อโควิดในประเทศเป็นอย่างไร เพราะทั้งสองตัวแปรจะส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะสะท้อนไปยังมูลค่าหุ้นในกระดานควรจะขึ้นไปอยู่ตรงไหนของเรื่องนี้นะจ๊ะ

*ตัวแรงที่เล่นเป็นรอบ คงโฟกัสไปที่หุ้น SUPER หลังได้รับคำยืนยันจากพรายกระซิบว่า ปีนี้ผลงานบรรเจิดต่ออีกหนึ่งปี ผนวกกับขาประจำก็เล่นหุ้นบนกรอบราคา 0.93-1.05 บาทไม่ต่ำกว่า 3 รอบ “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 0.96 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 107 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำแบบชิว ๆ เพราะหุ้นเทรดบน PE 11 เท่าเองจ้า!

*ส่วนคนที่ชอบความสยิวกิ้วขึ้นมานิดหนึ่ง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองไปที่หุ้น XPG เป็นรายถัดไปในทันที เพราะการขยับขึ้นแรงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 3.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 14.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาท มันทำให้การเล่นเก็งกำไรกลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น และกลายเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับขาลุยอย่างแท้จริง..ส่วนเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่คุณพี่ “เศรษฐา” เตรียมแถลงข่าววันพรุ่งนี้หรือเปล่า?..ต้องไปฟังกันเอาเองนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับการขึ้นรอบใหม่ของหุ้น 7UP ก็มาจากสตอรี่ประปาภูเก็ตทั้งนั้น “โมนิก้า” จึงอยากให้ขาลุยจับตาดูกันต่อไปว่า เที่ยวนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน? เพราะทุกอย่างเคลียร์ชัดจัดเต็มทุกอย่าง และรอเพียงแค่กำไรจะมาตามนัดไหม? เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินราคาปิดที่ 1.35 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 780 ล้านบาท มีโอกาสวิ่งขึ้นไปหายอดแรกบริเวณ 1.50 บาทอ๊ะป่าว?

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นเฟคนิวส์อย่าง BWG ขึ้นมาทันที เพราะข่าวเม้าท์ที่เที่ยวไปเป่าหูชาวบ้าน สุดท้ายก็เป็นเพียงข่าวลือเพื่อปั่นหุ้นธรรมดา เดี๊ยนจึงต้องออกโรงแจกแจงการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.05 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 16.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 505 ล้านบาท เหมาะต่อการโหนกระแสขนาดไหน? คงต้องไปถามขาใหญ่อย่าง “หมอหนุ่ม” กับ “เจ๊ใหญ่” กันเอาเอง!..เพราะเขาเม้าท์กันว่า คนปั้นน้ำตัวจริง..อิอิอิ

*สำหรับรายที่ขึ้นม้วนเดียวแบบไม่ต้องเหลียวหลังให้เสียเวลา “โมนิก้า” ต้องยกให้กับหนูซ่า NUSA หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.21 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 412 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 6 ปี 2 เดือน ก็มีจากเรื่องการขาย ATK และธุรกิจเฮลท์ตี้พันล้านเป็นแกนหลัก แถมเที่ยวนี้น่าจะทำได้จริงเหมือนที่คุยโม้ไว้ เดี๊ยนเลยไม่มีอะไรคาใจแม้นิดเดียวพะยะค่ะ

*ยกเว้นในรายของหุ้น SAAM ที่วันนี้เทรดบน PE 98 เท่า แต่ราคาหุ้นก็ขยับขึ้นมาปิดที่ 8.90 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 153 ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่เห็นอะไรในกอไผ่แบบนี้ “โมนิก้า” มองได้เพียงอย่างเดียวคือ ปั่นสุดซอย! เพราะไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลยสักอย่าง จึงขอเตือนพวกอ่อนหัดให้ระวังหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษ เพราะวันไหนที่เจ้ามือเลิกทำหน้าที่ วันนั้นบรรลัยแน่ ๆ เจ้าค่ะ

Back to top button