พาราสาวะถี

การรับประทานแห้วในเก้าอี้ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และว่าด้วยพรรคการเมืองของ ไพบูลย์ นิติตะวัน ซามูไรกฎหมายประจำพรรคสืบทอดอำนาจ สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองไม่น้อย


การรับประทานแห้วในเก้าอี้ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และว่าด้วยพรรคการเมืองของ ไพบูลย์ นิติตะวัน ซามูไรกฎหมายประจำพรรคสืบทอดอำนาจ สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองไม่น้อย แม้ว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์อย่าง ชินวรณ์ บุญยเกียรติ ที่เป็นวิปรัฐบาลจะออกมาบอกว่าเสียงที่ขาดหายไปของกลุ่ม ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ทำให้เสถียรภาพรัฐบาลสะเทือน ก็เป็นการแก้เกี้ยวหรือการเล่นการเมืองตีสองหน้าตามถนัดของพรรคเก่าแก่เท่านั้น

การที่ สาธิต ปิตุเตชะ จากพรรคเก่าแก่ปาดหน้าไพบูลย์ไปยึดเก้าอี้ประธานกรรมาธิการ ก็เท่ากับเป็นการตบหน้าพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ฉาดใหญ่ เพราะเช้าวันที่จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคสืบทอดอำนาจยังย้ำรายชื่อคนที่จะเป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ต้องซามูไรกฎหมายเท่านั้น ชินวรณ์ในฐานะวิปรัฐบาลจากประชาธิปัตย์ย่อมมีหน้าที่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น จะอ้างว่าเพราะฝ่ายค้านเป็นผู้เสนอชื่อจะปฏิเสธไม่ได้ยังไงก็ฟังไม่ขึ้น

ชัดเจนว่านี่เป็นเกมการเมืองเพื่อแสดงให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและลิ่วล้อให้ความสำคัญต่อการเป็นเพื่อนร่วมรัฐบาลเรือเหล็กด้วยกัน จะบอกว่างานในสภาไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหารก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างที่ฟังดูสวยหรูเท่านั้น เมื่อ วิษณุ เครืองาม ยอมรับเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงปัญหาเอกภาพของรัฐบาลในส่วนงานฝ่ายนิติบัญญัติและ “ต้องแก้ไข” พร้อมการพูดเชิงประชดด้วยว่าเคยบอกไปแล้วว่าต้องทำอย่างไร แต่ไม่มีใครฟังจึงต้องฝากสื่อไปแทน

ทั้งนี้ มีประเด็นจากบทสัมภาษณ์ของวิษณุที่น่าสนใจ หลังถูกถามว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ คำตอบที่ได้คือให้ไปถามพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. โดยที่ผู้ประกาศตัวว่าเป็นพิเภกอ้างว่าหัวหน้าพรรคสืบทอดอำนาจอยู่ในแวดวงการเมืองของนักเลือกตั้ง น่าจะอ่านอะไรได้ขาดกว่าตน แต่ไม่วายใช้สำบัดสำนวนเหมือนเดิม ปัญหาทางการเมืองถ้าไม่มีทางออกก็ออกทางเข้า ยังใช้ได้อยู่ คือถอยกลับไปประตูเดียวกับที่คุณคิดว่าเป็นทางออก แต่บางทีก็เป็นทางเข้า

ตรงนี้แหละที่ต้องขีดเส้นใต้ แล้วแต่ใครจะตีความ ในยามที่การเมืองเริ่มมองเห็นความไม่แน่นอน คำแนะนำของเนติบริกรรายนี้ที่จะมีต่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจคงหนีไม่พ้นการยุบสภา ตามช่วงระยะเวลาที่คอการเมืองคาดการณ์กันคือ ตั้งแต่เปิดสมัยประชุมหน้าคือพฤษภาคมเป็นต้นไป จุดชี้วัดคือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่จะเป็นจังหวะกล้วยขายดีและมีราคา ถ้าใจไม่ถึงหรือแจกไม่หนักก็มีโอกาสพังพาบกันเอาได้ง่าย ๆ

อย่างไรก็ตาม การเมืองเรื่องจัดการเสียงในสภา สิ่งที่ตามมาพร้อม ๆ กับปมไพบูลย์พลาดเก้าอี้ประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับคือ การประกาศท่าทีทางการเมืองของธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทย ไม่ได้มีเพียงแค่ประเด็นไม่รับเก้าอี้ ไม่สนใจตำแหน่งเสนาบดีในรัฐบาลสืบทอดอำนาจเท่านั้น หากแต่หอกข้างแคร่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจยังได้ปรามาสเรื่อง 260 เสียงที่ อนุทิน ชาญวีรกูล เคยการันตีว่าไม่มีอยู่จริง

ไล่หลังกันเสี่ยหนูก็ออกมาประกาศว่าไม่เคยพูดเรื่อง 260 เสียงที่จะหนุนให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอยู่ยาว จนทำให้เกิดข้อสงสัยกันว่านี่นัดหมายกันมาส่งสัญญาณอะไรทางการเมือง หรือเล่นเกมกดดันท่านผู้นำหรือไม่ แต่อย่างที่รู้กันเรื่องสายสัมพันธ์ทางการเมืองของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและที่ปรึกษาคนสำคัญอย่าง เนวิน ชิดชอบ นั้น มีการสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับคนแดนไกล นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรมการเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร

ขณะเดียวกัน จังหวะก้าวทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทยนั้นเห็นได้ชัดว่าสามารถพลิกพลิ้วได้ตามสถานการณ์โดยไม่สนใจว่าเคยพูดหรือสัญญาอะไรไว้หรือไม่ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือบทพิสูจน์จากที่หัวหน้าและลิ่วล้อประสานเสียงกันในช่วงที่มีกระแสอ้างว่าพรรคไม่เคยหาเสียงที่จะแก้ไข แต่พอจวนตัวเมื่อเกิดแรงกดดันอย่างหนักก็ประกาศทันทีว่าพร้อมที่จะแก้ไขถ้าเกิดประโยชน์กับประชาชน และอ้างว่าเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ไม่เพียงเท่านั้น ช่วงที่มีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เสี่ยหนูและคณะก็แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย หลักฐานคือการอภิปรายในสภาและการลงมติต่อเรื่องดังกล่าว แต่ล่าสุดก็ยืนยันหน้าตาเฉย สนับสนุนให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบตามรัฐธรรมนูญ นั่นเป็นเพราะประเมินแล้วถ้ามีการเลือกตั้งตามระบบใหม่พรรคของตัวเองจะได้เปรียบมากกว่าใช้บัตรใบเดียว ทำเอาฝ่ายที่จ้องจะล้มกฎหมายลูกและหวังที่จะอาศัยความหน้าทนกลับไปแก้รัฐธรรมนูญตั้งต้นกันใหม่ออกลูกเหวอกันเลยทีเดียว

อย่างที่บอกไว้ชั้นเชิงทางการเมืองแบบนี้คนที่จะบัญชาเกมได้ผ่านประสบการณ์อันโชกโชน จบแล้วนายภาค 2 มีโอกาสที่จะได้เห็นกัน ส่วนนายคนเดิมนั้นตามรายงานข่าวสัมพันธ์ของที่ปรึกษาอาจไม่แนบแน่นเหมือนเดิม แต่กับคนชื่อหนูก็ไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ในฐานะคนที่มีเส้นทางคอนเน็คชั่นไม่แตกต่างกัน ประเด็นส.ส.ฝากเลี้ยงจึงไม่ใช่แค่ข่าวโคมลอย ขณะที่การเมืองซึ่งออกแบบมาเพื่อการอยู่ยาวของขบวนการสืบทอดอำนาจนั้น ท้ายที่สุดก็ไม่มีทางที่จะสยบนักเลือกตั้งได้อยู่หมัด รอแค่จังหวะที่จะเอาคืนกันเท่านั้น

ส่วนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจากที่เคยมั่นใจว่าเสียงของส.ว.ลากตั้งคือเครื่องค้ำยันเสถียรภาพของตัวเองอันเหนียวแน่นนั้น วันนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป หลังจากเกิดปัญหาขัดคอกันของแก๊ง 3 ป. พวกลากตั้งก็สั่นคลอนกันไม่น้อย แม้จะได้รับการแต่งตั้งจากปากกระบอกปืนของคสช.เหมือนกัน แต่ที่มาของแต่ละรายนั้นรู้กันอยู่ว่ามาจากสายไหน เมื่อเกิดการปีนเกลียวกันของพี่น้องย่อมสร้างความลำบากใจ บางรายถึงขั้นมีการทวงบุญคุณกันทีเดียว ยามนี้ว่ากันว่าพวกสอพลอก็กลัวตัวเองจะหลุดพ้นเส้นทางเสวยสุขเหมือนกัน

Back to top button