วัคซีนเข็ม 4 …จำเป็นแค่ไหน?

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังมีหลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ให้กับกลุ่มเปราะบาง


ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังมีหลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ให้กับกลุ่มเปราะบาง ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ยังไม่สามารถตัดสินได้ว่า มันจะเป็นประโยชน์แก่ประชากรในวงกว้างขึ้นหรือไม่

องค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ก็อนุมัติให้ฉีดซีนโควิดเข็มที่ 4 เฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเท่านั้น และศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ (CDC) ยังได้แสดงความสงสัยถึงความจำเป็นในการฉีดวัคซีนเข็มที่สี่ให้กับผู้ใหญ่ที่มีร่างกายแข็งแรงเนื่องจากยังไม่มีกลยุทธ์ด้านสาธารณสุขที่ชัดเจนกว่านี้

การตัดสินใจเหล่านี้มีขึ้นในขณะที่มีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งจากอิสราเอลว่า แม้จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคเป็นเข็มที่สี่ ก็ป้องกันอาการรุนแรงได้อย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังฉีด และป้องกันการติดเชื้อได้เพียง “ระยะสั้นเท่านั้น” และการป้องกันลดลงหลังจากฉีดแค่ 4 สัปดาห์

จนถึงขณะนี้มีฉันทามติจากแพทย์ว่า ยังไม่มีการวิจัยเพียงพอว่าวัคซีนเข็มที่ 4 จะป้องกันการติดเชื้อได้มากแค่ไหน ในขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกก็ยังไม่ได้แนะนำอย่างเป็นทางการให้ฉีดเข็มที่สี่

โสมยา สวามีนาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ไม่มีหลักฐานที่ดีใด ๆ ในขณะนี้ว่าวัคซีนเข็มสี่จะเป็นประโยชน์ โดยสิ่งที่องค์การอนามัยโลกรู้จากภูมิคุ้มกันวิทยาคือถ้าฉีดวัคซีนกระตุ้นอีกเข็ม จะมีแอนติบอดี้ที่ทำให้เป็นกลางเพิ่มขึ้นชั่วคราว และแอนติบอดี้ที่เป็นกลางเหล่านี้จะลดลงอย่างรวดเร็ว

พอล กอฟเฟิร์ต ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์มหาวิทยาลัยอลาบามา ก็เห็นพ้องเช่นกันว่า วัคซีนเข็มที่สี่ ไม่ได้ช่วยอะไรมากและไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องฉีด แต่ทุกคนเร่งฉีดเพราะจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ

นับตั้งแต่ผลการศึกษาจากอิสราเอลชี้ว่า วัคซีนเข็มที่สี่สามารถ “ป้องกันอาการรุนแรงได้” หลายประเทศ เช่น อิสราเอล เดนมาร์ก และสิงคโปร์ ได้จัดหาวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สองให้กับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง

ตามความเห็นของ แอชลีย์ เซนต์จอห์น ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะแพทย์ Duke-NUS Medical School ในสิงคโปร์ แทนที่จะบอกว่าการป้องกันของวัคซีนเข็มที่สี่ลดลง ควรจะบอกว่าผลกระทบของการฉีดวัคซีนเข็มที่สี่ จะรุนแรงที่สุดหลังจากฉีดไม่นาน แต่ยังคงสามารถป้องกันโดยรวมได้ และที่สำคัญ “การป้องกันอาการรุนแรงไม่ลดลง” ซึ่งเป็นผลกระทบที่สำคัญสุดของการฉีดวัคซีนที่ตั้งเป้าจะทำให้สำเร็จ

มีการตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการฉีดวัคซีนกระตุ้นมากขึ้นเมื่อมีไวรัสโคโรนาหลายสายพันธุ์เกิดขึ้นว่า อาจต้องใช้วัคซีนเฉพาะสายพันธุ์ มากขึ้นหรือไม่

นายแพทย์ แอนโทนี ฟาวซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของทำเนียบขาวกล่าวเมื่อเดือน มกราคม ที่ผ่านมาว่า อาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปีหรือทุกสองปี

อย่างไรก็ดี นโยบายฉีดวัคซีนแบบปูพรมอาจจะไม่ได้ผลอย่างต่อเนื่อง หัวหน้านักวิทยาศาสตร์องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เป็นไปได้ที่กลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้สูงอายุ อาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนประจำปี แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิดประจำปีหรือไม่ พร้อมทั้งยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า วัคซีนที่ฉีดกันอยู่ในขณะนี้อาจจะไม่ได้ผลสำหรับสายพันธุ์โควิดในอนาคต หากไวรัสเปลี่ยนแปลงมากจนต้องเปลี่ยนองค์ประกอบของวัคซีน ก็ไม่จำเป็นต้องฉีดอีก

กอฟเฟิร์ต กล่าวว่า เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าประชากรต้องได้รับวัคซีนกระตุ้นอีกนานเท่าใด แต่แนวทางที่ปลอดภัยที่สุดคือ วางแผนฉีดกระตุ้น 1 เข็มทุกปี และอาจรวมเข้ากับวัคซีนไข้หวัดใหญ่

องค์การอนามัยโลกแถลงเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ใหม่รายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ มีนาคม 2563 แต่จากข้อมูลจาก CDC สายพันธุ์ย่อย BA.2 ของโอมิครอนที่ติดต่อได้มากกว่า ยังคงเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ โดยคิดเป็น 68.1% ของผู้ติดเชื้อในประเทศทั้งหมดในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 23 เมษายน

แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าสายพันธุ์ย่อย BA.2 ไม่น่าจะรุนแรงกว่าสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่และเชื่อว่า จะยังคงมีการติดเชื้อต่อไป และสายพันธุ์นี้จะยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ เพียงแต่การติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จะน้อยลงเรื่อย ๆ

ผู้ติดเชื้อในสถานที่ที่มีวัคซีนครอบคลุมเพียงพอ จะมีอาการไม่รุนแรงหรือจัดการได้  ซึ่งจะลด “ภาระระบบการรักษาเมื่อเปรียบเทียบกับการติดเชื้อในระลอกก่อนจะมีวัคซีนโควิด”

ข้อมูลที่นำมาบอกกล่าวทั้งหมดนี้ เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่งที่จะไขข้อสงสัยที่หลายคนยังหาคำตอบไม่ได้ ว่า เราจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มสี่แค่ไหน อย่างไรก็ดี มันยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบเฉพาะคนด้วย เช่น ความพร้อมของร่างกายและจิตใจของแต่ละคน และวัคซีนที่จะได้ฉีด มันเหมาะกับเราหรือไม่

อย่าตัดสินใจฉีดเพียงแค่เรามีสิทธิ์ได้ฉีดฟรี และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักคือ เรื่องวัคซีนมันมีผลประโยชน์มหาศาลอยู่เบื้องหลัง  ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ อาจจะมีความจริงแค่ครึ่งเดียวก็ได้ และไม่แน่ว่า เมื่อเวลาผ่านไป “ผลข้างเคียงระยะยาว” อาจโผล่มาให้เห็น ทำนอง “น้ำลด ตอผุด” ก็ได้

Back to top button