ธุรกิจแห่ระดมทุนยื่นขอ IPO คึกคัก

หุ้น IPO ที่เตรียมจะเสนอขายและเข้าเทรดในทั้ง SET และ mai ครึ่งหลังปีนี้ คงต้องฟันฝ่าหลากหลายปัจจัยลบที่ดาหน้าเข้ามา


เส้นทางนักลงทุน

ครึ่งหลังของปี 2565 นี้ แม้โบรกเกอร์หลายสำนักคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยจะผันผวนอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 แต่พบว่ามีผู้ประกอบการในหลากหลายธุรกิจที่ต้องการระดมทุนเพื่อใช้ขยายและต่อยอดการดำเนินงาน ทำให้มีจำนวนหุ้นน้องใหม่ที่จ่อคิวเตรียมออกและเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือที่เรียกว่าหุ้น IPO กันอย่างคึกคัก ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ถึง 27 บริษัท (ณ 12 กรกฎาคม 2565) แบ่งเป็น SET 19 บริษัท และ mai 8 บริษัท ซึ่งมากกว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 14 บริษัท

ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยอมรับว่าบรรยากาศการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังต้องเผชิญความเสี่ยงรอบด้านทั้งจากปัญหาราคาพลังงาน ราคาสินค้า อาหาร ปรับตัวสูงขึ้นมาก กระทั่งนำไปสู่ปัญหาเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีแนวโน้มว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคอาจหดหาย เพราะส่วนใหญ่ประสบปัญหามีหนี้ครัวเรือนระดับสูงอยู่แล้ว

ประกอบกับการระบาดของเชื้อโควิดระลอกใหม่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงประเทศไทยแต่เป็นปัจจัยกดดันทั่วโลก จนส่งผลให้ทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องประสบภาวะเศรษฐกิจเติบโตช้า หรืออาจเข้าขั้นถดถอยทีเดียว

โดยเมื่อเริ่มต้นเดือนแรก (กรกฎาคม) ของครึ่งปีหลัง หุ้นบริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป (BLESS) หุ้นอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ได้เข้ามาจดทะเบียนใน SET ไม่สร้างความผิดหวัง เพราะสามารถยืนเหนือจองได้สำหรับการซื้อขายวันแรก (7 กรกฎาคม 2565)

ขณะที่ ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ หุ้นบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI ที่เสนอขายจำนวน 2,384,318,900 หุ้น มีราคา IPO 16 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 37,067 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ณ ราคา IPO ถึง 183,200 ล้านบาท ก็จะเข้ามาซื้อขายเช่นกัน

สำหรับบริษัทที่ได้รับอนุมัติไฟลิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว และอยู่ระหว่างเดินสายโรดโชว์ข้อมูลอีกบริษัทหนึ่งก็คือ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 360 ล้านหุ้น ภายในไตรมาส 3 นี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

โดย CHIC เป็นผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอนครบวงจร นับเป็นผู้นำโฮมแฟชั่นสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ดีสโตน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DEE ทำธุรกิจผลิตยางรถยนต์ จะขายหุ้น IPO ทั้งสิ้น 842 ล้านหุ้น มีบล.กสิกรไทย และ บล.เกียรตินาคินภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ถัดมาคือ บริษัท เอคอมเมิร์ช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีชื่อย่อว่า ACOM เป็นโฮลดิ้งคัมปานี ลงทุนในธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซ จะ IPO ทั้งสิ้น 1,942.42 ล้านหุ้น มีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

อีกหนึ่งบริษัทคือ บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เตรียมขาย 600 ล้านหุ้น มีบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ใช้ชื่อย่อ DTCENT ทำธุรกิจอุปกรณ์ติดตามยานพาหนะ จะเข้าจดทะเบียนในกลุ่มเทคโนโลยี/เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้วยการขาย 305 ล้านหุ้น มีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH ผลิตและแปรรูปอาหาร จัดอยู่ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร/อาหารและเครื่องดื่ม ก็เตรียมขาย 160 ล้านหุ้น มีที่ปรึกษาทางการเงินคือบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด

บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ใช้ชื่อย่อ TEGH เป็นโฮลดิ้งคัมปานีในธุรกิจยางธรรมชาติ, น้ำมันปาล์มดิบ และจัดการกากอินทรีย์ ขาย 324 ล้านหุ้น มีบล.กสิกรไทย และ บล.ทรีนี้ตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับบริษัทที่อยู่ระหว่างการพิจารณาไฟลิ่ง ประกอบด้วย บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PCC จะอยู่ในกลุ่มทรัพยากร/พลังงานและสาธารณูปโภค จ่อขาย 307 ล้านหุ้น มีที่ปรึกษาทางการเงินคือ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

ส่วนบริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI อยู่ในกลุ่มผลิตอาหารสัตว์ เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร/อาหารและเครื่องดื่ม จะขาย 637.50 ล้านหุ้น มีบล.ทิสโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ POLY จะขาย 120 ล้านหุ้น เข้ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม/ยานยนต์ มีบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท เอสซีจี เคมิคอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์และอื่น ๆ มีแผนขาย 3,854.68 ล้านหุ้น มีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บล.กสิกรไทย และ บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) ชื้อย่อว่า SM เป็นหุ้นน้องใหม่ในกลุ่มธุรกิจการเงิน/เงินทุนและหลักทรัพย์ โดยมีบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินด้วยเช่นกัน

บริษัท คอทโก้เมททอลเวอร์คส จำกัด (มหาชน) หรือ CCM อยู่ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม/เหล็ก และผลิตภัณฑ์โลหะ จ่อขาย 150 ล้านหุ้น มีบล.เคทีบีเอสที เป็นที่ปรึกษานำเข้าจดทะเบียน

บริษัท เบทาโก จำกัด (มหาชน) หรือ BTG จะอยู่ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร/อาหารและเครื่องดื่ม โดยจะขาย 500 ล้านหุ้น มีบล.เกียรตินาคินภัทร และ บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ Z จะอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงิน/เงินทุน จะขาย 75 ล้านหุ้น และมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC อีกหนึ่ง IPO ที่จะขาย 820 ล้านหุ้น สังกัดในกลุ่มธุรกิจการเงิน/เงินทุนและหลักทรัพย์ มีบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) และ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC สังกัดกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร/อาหารและเครื่องดื่ม เล็งขาย 660 ล้านหุ้น โดยมีบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินนำเข้าตลาด

บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เป็นโฮลดิ้งคัมปานีที่ลงทุนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ จะขาย 336 ล้านหุ้น มีบล.ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ส่วน IPO ที่เตรียมเข้าตลาด mai คือ บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายคอนกรีตสำเร็จรูป จะเข้าจดทะเบียนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ขาย 18 ล้านหุ้น มีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับบริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเชีย จำกัด (มหาชน) จะใช้ชื่อย่อว่า AMARC จะขาย 12 ล้านหุ้น อยู่ในกลุ่มบริการ บล.โนมูระ พัฒนสิน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ด้านบริษัท เอส.เอ.เอฟ. สปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ SAF ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม เตรียมขาย 80 ล้านหุ้น มีบล.เอเชีย เวลท์ เป็นที่ปรึกษาการเงิน

บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX จะเข้าจดทะเบียนในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค จ่อขาย 180 ล้านหุ้น มีบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนนซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ UBA ขาย 170 ล้านหุ้น อยู่กลุ่มบริการ มีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ส่วนบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม จำกัด (มหาชน) หรือ ITNS หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีบริษัทหลักทรัพย์ เตรียมจะขาย 70 ล้านหุ้น มีบล.เคทีบีเอสที เป็นที่ปรึกษาทางการเงินนำเข้าจดทะเบียน

บริษัท ทเวนตี้โฟว์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS ทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ระบบปรับอากาศและรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร จะขาย 130 ล้านหุ้น โดยมีบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) รับดูแลเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุนครั้งนี้

และสุดท้าย บริษัท มั่นคง สตีล จำกัด (มหาชน) ชื่อย่อ MKS ทำธุรกิจด้านเมทัลชีทครบวงจร จะออกและเสนอขายหุ้นไม่เกิน 125 ล้านหุ้น ทั้งในส่วนของหุ้นใหม่และของผู้ถือหุ้นเดิม มีบริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

หุ้น IPO ที่เตรียมจะเสนอขายและเข้าเทรดในทั้ง SET และ mai ครึ่งหลังปีนี้ คงต้องฟันฝ่าหลากหลายปัจจัยลบที่ดาหน้าเข้ามา ส่วนบริษัทไหนจะฝ่าด่านยืนเขียวเหนือจองได้ก็ต้องมารอดูกัน

Back to top button